"ตัวเราเป็นคนแบบไหน?" เป็นคำถามสั้นๆ เหมือนตอบไม่ยาก แต่ก็ไม่ง่ายที่จะตอบได้
บางคนจะอยู่กับตัวเองมาหลายสิบปี ก็อาจใช้เวลาเป็นสิบๆ นาที กว่าจะบรรยายได้ว่า ตัวเองเป็นคนแบบไหน นิสัยยังไง
บางคนตอบได้รวดเร็วปานกามนิตหนุ่ม
(หากนึกหน้ากามนิตไม่ออก ก็เอาเป็นเร็ว เหมือน เดอะ แฟลช ฮีโร่ค่าย DC หรือ ควิก ซิลเวอร์ ของค่าย Marvel ก็ได้ไม่น่าแตกต่างกันมาก)
แต่ความเร็วในการตอบ ก็ไม่ได้เป็นดัชนีบอกว่า เรารู้จักตัวเองดีแค่ไหน และไม่ได้มีประโยชน์เท่าไรต่อการเอาไปพัฒนาตัวเอง
ยิ่งกว่านั้น บางคนที่ตอบอย่างมั่นใจ เพราะเชื่อว่ารู้จักนิสัยตัวเองดี ก็ยังต้องถามต่ออีกว่า "ตัวตน หรือ นิสัยที่ว่ามา ถูกหรือเปล่า?
เพราะ หลายคนที่เชื่อว่าตัวเองเป็นคนใจเย็น
แต่ทันทีคนรอบตัวค้านสวนว่า "ไม่นะ เธอใจร้อนจะตาย"
นอกจากเจ้าตัวจะเซอร์ไพร์ซแล้ว บางคนยังตอบกลับเสียงดังทันควันอย่างเกรี้ยวกราดว่า "ไม่จริง!! ผมเป็นคนใจเย็น!! ไม่เคยโกรธใคร!!"
คนใจเย็นแบบนี้ก็มีในโลก...
หรือ คนที่เข้าใจว่าตัวเองเป็นคนสุภาพ
แต่เพื่อนร่วมงานมักเห็นเขาพูดจาดูถูก รปภ. แม่บ้านที่ออฟฟิศ
คนแบบนี้ก็มีให้เห็น...
ถ้างั้นเราควรเชื่อ คำตอบของคำถาม "ตัวเราเป็นคนแบบไหน?" จากปากใครดี?
ก. ตัวคุณที่อยู่กับตัวเองมาทั้งชีวิต
ข. ผู้อื่นที่มองเห็นการกระทำของคุณ และได้รับผลกระทบจากมัน
ค. เชื่อทั้ง ก. และ.ข.
ง. ไม่เชื่อทั้ง ก. และ. ข.
จ. ถูกทุกข้อ
ฉ. ช่างมันเถอะ! มันเรื่องของผม/ฉันน่ะ!
จะตอบข้อไหน ก็ไม่เป็นไร
(ยิ่งคนตอบข้อ ฉ. ยิ่งไม่เป็นไรจริงๆ ครับ อิอิ)
ค่อยๆ คิดไปก็ได้ ไม่ต้องรีบร้อน เพราะคำตอบที่ถูกต้องของคำถาม "ตัวเราเป็นคนแบบไหน?" มันไม่ใช่ง่ายขนาดที่จะรู้ได้ตอนนี้เดี๋ยวนี้ แถมคาดคะเนไม่ได้ว่า เมื่อไรจะรู้จักตัวเองได้ครบถ้วนทุกแง่มุม
แต่สิ่งเดียวที่รับรองได้ คือ #ประโยชน์ต่อตัวคุณเอง ตั้งแต่นาทีแรกที่เริ่มตั้งคำถามนี้กับตัวเอง
ส่วน #ประโยชน์ต่อคนอื่น จะเริ่มต้นในวินาทีที่เราเริ่มรู้สึกตัวว่า ตัวตนหรือนิสัยบางอย่างของเรา อาจสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น
คอนเฟิร์ม!!
--------------------------------------------
Infographic & content by aniruthT
photo: John Wick & The matrix, internet
reference: Johari window
![]() |
Aniruth Tulsuk (อนิรุทธิ์ ตุลสุข)
Sr. Consultant & Facilitator-CFG
M.A. Industial and Organizaional Psychology, Thammasat University
Former Learning & Development Manager, FMCG/Property Interesting Areas:
Startup Business, Leadership Development, Behavioral Change,Trait & Personality, Visual Thinking |
เป้าหมายหลักขององค์กรมีหลายด้าน คนสำคัญที่จะช่วยผลักดันให้องค์กรบรรลุเป้าหมายเหล่านั้นได้ คือ ผู้บริหาร อย่างไรก็ตามการที่ผู้บริหาร หรือ ผู้นำจะดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ต้องเริ่มจากการมี Leadership Mindsets ที่ถูกต้องเหมาะสมด้วย องค์กรจะพัฒนาผู้บริหารให้เป็นผู้นำที่ดีได้อย่างไร มาดู Key takeaway จาก Mini Workshop ของเรากันครับ
โลกเราไม่เคยหยุดนิ่ง และยิ่งมีสปีดของการเปลี่ยนแปลงเร็วขึ่นเรื่อยๆ แล้วองค์กรจะพัฒนาผู้นำอย่างไรในโลกที่ไม่แน่นอน ใน Mini Workshop ของ อ. คม สุวรรณพิมล จึงมีได้นำประเด็นนี้มาอัพเดท ให้ผู้บริหารทุกท่านได้ เตรียมพร้อมสำหรับการพัฒนาการบริหารให้ยืดหยุ่น เพื่อรับมือกับโลกที่ไม่แน่นอน (uncertain World) มาดู Key takeaway จาก Mini Workshop ของเรากันครับ
สาเหตุที่ต้องพัฒนาผู้นำองค์กร ให้บริหารอย่างสมดุล ตามแนวคิดของ Diamond Management ก็คือ ผู้บริหารแต่ละคน มักจะมี "ท่าถนัด" หรือ สไตล์ในการบริหารต่างกันมากเกินไป ถ้าคุณเป็นผู้นำแล้ว เราลองใช้นิยามหัวหน้า ใน Info นี้ ดูตัวเองนะครับ ว่าท่าถนัดเราคือแบบไหน? มีหลงลืมท่าที่ไม่ถนัดแต่จำเป็นตัวไหนบ้างไหม? แล้วมาลองปรับด้านที่เหลือกันครับ
โดยทั่วไป คนมักจะมีความถนัดของตัวเอง ทั้งจากประสบการณ์การทำงานที่แตกต่างกัน หรือ บางคนก็ใช้ความเชื่อของตัวเองในการบริหาร จึงทำให้มักใช้หลักการบางตัวเท่านั้นในหลายๆ สถานการณ์ ทว่า การเป็นผู้นำที่ดีนั้น จำเป็นต้องใช้ให้ถูกสถานการณ์จึงจะช่วยให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีและเหมาะสมในการทำงาน ซึ่งมีดังนี้
High Performance Environtment คือ บรรยากาศการทำงานที่พึงประสงค์ ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลต่อแรงจูงใจในการทำงานของพนักงานอย่างมากครับ เพราะจะส่งผลต่อความรู้สึก ทัศนคติ และพฤติกรรมในการทำงานของพนักงาน
ทักษะการคิด เป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับอนาคต และคนทำงานจะอยู่ยากถ้าปราศจากระบบความคิดที่เหมาะสม กูรูหลายท่านระดับโลกจึงมีความเห็นไปในทิศทางเดียวกันครับว่า ถ้าอย่างนั้น สิ่งที่จะช่วยได้ ก็คือ การยกระดับระบบการคิด ซึ่งได้แก่