พูดถึง "ความสำเร็จ" ในชีวิต ใครๆ ก็คงอยากไปให้ถึงใช่ไหมครับ
ไม่ว่าจะเป็น ความสำเร็จในหน้าที่การงาน การเรียน หรือ เรื่องไหนก็ตาม
ในอดีตครั้งที่ยังไม่มี หนังสือ How to Success วางขายเต็มแผงแบบทุกวันนี้ นักปราชญ์มักจะเป็นกูรูที่ช่วยชี้ทางสว่างให้ผู้คนได้ จึงมีศิษย์จำนวนหนึ่งถามอาจารย์เซนว่า
"ท่านอาจารย์ครับ หากพวกผมอยากเป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จในชีวิต จะต้องทำอย่างไรดีครับ"
ท่านอาจารย์ได้ยินเช่นนั้น จึงได้ตอบกลับไปว่า "เจ้าเด็กโง่เอ๋ย อันว่าความสำเร็จ มันเป็นสิ่งที่กระทำได้ง่ายและธรรมดากว่าที่พวกเจ้าคิดมากนัก เพียงพวกเจ้าทำตามนี้ จากนั้นพวกเจ้าจะรู้ถึงเคล็ดลับของสวรรค์ ที่ทำให้ชีวิตประสบความสำเร็จทันที"
จากนั้นก็แนะนำให้บบรดาลูกศิษย์ แกว่งแขนไปข้างหน้าให้ไกลที่สุด แล้วแกว่งไปด้านหลังให้ไกลสุดแบบเดียวกัน ทำให้ได้วันละ 300 ครั้ง เป็นเวลา 1 ปี
เหล่าลูกศิษย์ที่ต้องการอิสระภาพทางการเงิน เอ้ย ความสำเร็จในชีวิต ต่างไม่ค่อยเข้าใจเท่าไรนัก ว่าอาจารย์เซน จะให้ทำเรื่องง่ายๆ ไร้เหตุผลเช่นนี้ไปทำไม ส่วนหนึ่งจึงเสื่อมศรัทธาและจากไปตั้งแต่แรก ส่วนพวกที่ยังอยู่ ก็ก้มหน้าก้มตา ทำตามที่อาจารย๋บอกต่อไป
วันเวลาผ่านไปหนึ่งเดือน ลูกศิษย์อีกครึ่งหนึ่งก็เริ่มล้มเลิก ถอดใจ
ส่วนที่เหลือ ยังคงแกว่งแขนตามที่บอกไว้
จนครบ 1 ปีที่กำหนด อาจารย์เซนก็มาถามว่า
"เป็นอย่างไรบ้าง มีใครยังทำ การแกว่งแขวนง่ายๆ ที่ข้าเคยบอกอยู่บ้าง?"
ไม่มีเสียงตอบจากสวรรค์ จนสักพักนึงจึงมีผู้ชูมือขึ้นมา พร้อมตอบว่า
“ข้ายังทำอยู่ขอรับ”
อาจารย์เซนจึงถามกับศิษย์ทั้งหมดว่า
"การแกว่งแขนเป็นเรื่องง่ายหรือยาก?"
เหล่าลูกศิษย์ตอบทันใด
"ง่ายครับ"
"หากมันง่าย แล้วเหตุใด พวกเจ้าจึงเลิกทำมันเล่า?"
"เพราะมันง่ายและธรรมดา พวกข้าจึงไม่เห็นว่ามันจะนำพาให้ไปสู่ความสำเร็จได้แต่อย่างใดครับ ท่านอาจารย์"
อาจารย์เซ็นมองไปที่เหล่าลูกศิษย์และเปรยขึ้นว่า
"เอาล่ะ ข้าเคยบอกพวกเจ้าว่าเมื่อภารกิจนี้สิ้นสุด พวกเจ้าจะรู้เคล็ดลับที่นำไปสู่ความสำเร็จ"
เคล็ดลับที่ข้าจะบอกพวกเจ้า ก็คือ
"ประการแรก ทุกความสำเร็จ เริ่มต้นจากการลงมือทำ"
"หลายคนที่อยากสำเร็จ แต่ก็ไม่เริ่มลงมือทำเสียที บางคนไม่เชื่อว่าสิ่งง่ายๆ จะนำไปสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ได้ ตรงข้ามบางคนก็คิดว่ามันยากแล้วก็ท้อไปก่อน"
"เมื่อไม่ทำ แล้วจะไปสำเร็จได้อย่างไร?"
"ประการที่สอง เมื่อลงมือทำแล้ว อุปสรรคอย่างยิ่งยวดคือ มีแค่ไม่กี่คน ที่ยอมทำอย่างต่อเนื่องยาวนาน แม้ว่างบางอย่างจะดูเหมือนง่ายๆ ก็ตาม และคนที่มีวินัยมากกว่าไม่ล้มเลิกก็จะเป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จ"
เมื่อได้ยินเช่นนั้น เหล่าศิษย์ทั้งหลายก็เข้าใจถึงเคล็ดลับความสำเร็จที่อาจารย์บอกในทันที
ในการทำงานก็ไม่ต่างกันครับ เมื่อทำบ่อยๆ ก็เกิดทักษะ หรือเมื่ออบรมมาแล้ว ก็ยังต้องฝึกใช้ทักษะนั้น บ่อยๆ จึงจะชำนาญ
เมื่อชำนาญแล้ว ก็ยังต้องทำต่อไป เพราะ ความสำเร็จบางอย่าง ก็ต้องรอคอยจังหวะเวลาเช่นกัน เราจึงไม่อาจท้อ หรือหยุดทำสิ่งที่ต้องทำได้ โดยต้องทำไปเรื่อยๆ อย่างมีวินัย เพื่อรอโอกาสนั้นมาถึง
สิ่งที่ผมอยากเพิ่มเติมจากท่านอาจารย์เซนอีกสักข้อ คือ ความมีวินัยเป็นสิ่งที่ดีอย่างไม่ต้องสงสัย แต่อย่าเข้าใจผิดเอาไปรวมกับความหมายของการทำสิ่งซ้ำๆ เดิมๆ ทุกวันจนเป็นงานรูทีน เพราะแบบหลัง นอกจากไม่ทำให้เราพัฒนาแลัว ยังทำให้เราอยู่ใน Comfort zone อีกต่างหาก
ดังนั้น นอกจากมีวินัย ทำงานอย่างสม่ำเสมอแล้ว ลองหมั่นสังเกตตัวเอง และการเปลี่ยนแปลงรอบๆ ตัวด้วย ก็จะยิ่งทำให้เรามองเห็นแง่มุม ที่สามารถพัฒนาตนเองได้ยิ่งๆ ขึ้นไปครับ
---------------------------------
Content: อนิรุทธิ์ (โครงเรื่องจากนิทานเซนเรื่องความสำเร็จ)
---------------------------------
#CoachForGoalArticle #CFG
สร้างทัศนคติการทำงานให้ดีขึ้นในทุกวันแบบง่ายๆ
---------------------------------
รายละเอียดโปรแแกรมพัฒนาบุคลากรองค์กรที่
www.coachforgoal.com
Aniruth Tulsuk (อนิรุทธิ์ ตุลสุข)
Sr. Consultant & Facilitator-CFG
M.A. Industial and Organizaional Psychology, Thammasat University
Former Learning & Development Manager, FMCG/Property Interesting Areas:
Startup Business, Leadership Development, Behavioral Change,Trait & Personality, Visual Thinking |
สาเหตุที่ Work-Life Balance ของคนทำงานจะเปลี่ยนไปจากเดิมนั้น เพราะวิกฤตเศรษฐกิจในครั้งนี้ กำลังคืบคลานเข้ามา และแน่นอนว่าจะสร้างผลกระทบกับชีวิตการทำงานแต่ละคนไม่มากก็น้อย แล้วพนักงานต้องทำอย่างไร? ต้องโหมทำงานจนละเลยชีวิตตัวเองหรือไม่? มาดู 4 แนวทางที่จะช่วยสร้างให้สมดุลชีวิตและงานยังคงอยู่กัน
เมื่อใดประเทศประสบปัญหาทางเศรษฐกิจ มักจะกระทบต่อองค์กรด้วย ทำให้ผลประกอบการตกลง ซึ่งเมื่อต้องอธิบายว่าทำไมผลประกอบการต่ำลง ก็จะได้รับคำตอบเหมือนเดิมทุกครั้งคือ “ เศรษฐกิจไม่ดี” แต่สังเกตหรือไม่ว่า ในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจแย่ แต่ก็มีบางบริษัทที่ผลประกอบการ ไม่ได้แย่ตามไปด้วย เพราะความจริงแล้วภาวะเศรษฐกิจไม่ใช่ปัจจัยเดียวที่กระทบผลประกอบการ แต่มันมีปัจจัยอื่นๆภายในองค์กรด้วย และปัจจัยเหล่านี้มักจะถูกมองข้ามไป นั่นคือ
การเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วในวันนี้ หัวหน้างานที่ยังคงต้องทำบทบาทในการปรับทีมงานให้พร้อมรับมือการเปลี่ยนแปลงเสมอ เพื่อให้เกิดบรรยากาศแบบ High Performance Environment หรือ ทีมงานมีไฟมีพลังสู้รบกับการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ซึ่ง 5 วิธีที่หัวหน้าสามารถเริ่มทำได้ทันที ได้แก่
คุณมักได้ยินคำแนะนำมากมายเกี่ยวกับการเป็นผู้นำที่ดี เช่น ต้องรับฟังให้เยอะพูดให้น้อย ต้องเข้าอกเข้าใจ ต้องพัฒนาเรียนรู้ตลอดเวลา ต้องมีเหตุผล ต้องแสดงความรับผิดชอบและทำให้งานสำเร็จ สิ่งต่างๆเหล่านี้ ล้วนเป็นการกระทำที่ดีทั้งนั้น แต่รู้ไหมว่า จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าคุณทำสิ่งข้างต้นเรื่องใดเรื่องหนึ่งมากเกินไป
ถ้าพูดว่าการทำงานหลักๆของผู้บริหาร หรือหัวหน้า คือการสื่อสาร ภาพในหัวของหลายคนก็จะมีภาพว่าหัวหน้าต้อง present ได้เก่ง โน้มน้าวหรือ พูดได้รู้เรื่อง ซึ่งก็นับว่า จริง แต่แค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะผู้บริหารมีหน้าที่ต้องบริหารคนให้ทำงานให้บรรลุเป้าหมายให้ได้ ดังนั้นการสื่อสารของหัวหน้าจึงมีหลากหลายมิติ โดยถ้าแยกแบบคร่าวๆ ก็จะมีอยู่ 3 มิติ ดังนี้
จากที่เคยพูดถึงว่าทักษะสำคัญของหัวหน้าคือการสื่อสาร ซึ่งมีหลากหลายวัตถุประสงค์ ในโพสนี้ ขออธิบายการสื่อสารที่เป็นจุดเริ่มต้นของการทำงาน คือ”การสั่งงาน” ซึ่งดูแล้วเหมือนกับเรื่องง่ายๆ ที่ใครๆก็น่าจะสั่งงานได้ แต่หัวใจสำคัญคือ