ทฤษฎี X และทฤษฎี Y ยังคงใช้ได้ หรือ ควรเก็บไปเข้ากรุดี?

วันที่: 07 พ.ย. 2564 13:06:03     แก้ไข: 07 พ.ย. 2564 13:17:59     เปิดอ่าน: 10,739     Blogs
ในช่วงนี้ ผมต้องปรับรูปแบบการสอนเป็น online หลายหลักสูตร จึงได้โอกาสทบทวนเนื้อหาการสอนไปในตัวครับ
ในช่วงนี้เองที่ได้พบว่า ทฤษฎีการบริหารงานแบบดั้งเดิมหลายตัวนั้น เอาจริงๆ ก็ยังสามารถปรับใช้กับปัจจุบันได้ แม้ว่าเราจะเปลี่ยนจากยุคอนาล็อก มาเป็นดิจิทัลก็ตาม
หนึ่งในนั้น คือ ทฤษฎี X และ Y ของ Douglas McGregor นี่แหละครับ
แนวคิดนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ ครึ่งศตวรรษก่อน ราวๆ ต้นการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 3 โน่น (ราวๆ 1960) ซึ่งเป็นยุคต้นของดิจิทัลเลย เพราะช่วงที่คอมพิวเตอร์เกิดพอดี
ทฤษฎีนี้อธิบายว่า มุมมองของผู้นำที่มีต่อพนักงาน มี 2 แบบ คือ
ทฤษฎี X
เป็นมุมมองที่ว่า พนักงานนั้น มาทำงานแค่อยากได้เงิน สวัสดิการ ไม่ได้มีแรงจูงใจ หรือ ความรับผิดชอบต่องานหรอก
ไม่ได้รักงานที่ทำ มักเลี่ยงความรับผิดชอบ ไม่อยากพัฒนาตนเอง
ผลก็คือ หัวหน้า ต้องควบคุม มีกฎระเบียบให้มากไว้ หากผิด ก็ให้ลงโทษ แบบฝึกสิงโตในคณะละครสัตว์นั่นแหละ และต้องให้ #คำสั่งที่เด็ดขาด
และ McGregor เชื่อว่า หัวหน้าส่วนใหญ่ก็มักมีมุมมองแนวนี้ ผู้อ่านเห็นด้วยไหมครับ?
ทฤษฎี Y
เป็นมุมมองอีกด้านที่หัวหน้าเชื่อว่า คนเราย่อมมีแรงจูงใจมากกว่าตัวเงินนะ เค้าอยากที่จะพัฒนาตนเอง และมีความรับผิดชอบมากพอที่จะทำงานให้บรรลุเป้าหมาย
ผลจากมุมมองแบบนี้ ก็คือ หัวหน้าจะให้อิสระ ให้พนักงานมีส่วนร่วมกับงาน และแสดงความคิดเห็น ส่วนตัวหัวหน้าก็ทำหน้าที่ให้ #คำแนะนำที่จำเป็น
ถึงตรงนี้ ผู้อ่านพอทราบรึยังครับว่า สามารถเอามาใช้ในยุคดิจิทัลได้อย่างไร?
แนวคิดแบบ Theory Y นี่แหละครับ ที่เราอยากให้พนักงานยุคนี้เป็น เพื่อที่จะได้มีความเป็นเจ้าของงาน (Ownership) และช่วยให้ทีมงานและองค์กรสู้ศึกใหญ่ในยุคดิจิทัลได้อย่างรวดเร็ว โดยที่หัวหน้างานไม่ต้องเป็น "เดอะ แบก" แยกภาระทุกอย่าง จนทีมงานไปด้วยความเร็วแบบเรือเกลือ
สิ่งที่ผมอยากเพิ่มเติม จากแนวคิดนี้ เพื่อให้เข้ากับยุคสมัย คือ
1. หัวหน้าไม่ควรมองว่าลูกน้องเป็น X หรือ Y ล่วงหน้า (prejudgement)
แต่ควรพิจารณาลักษณะของทีมตามความจริงว่า สมาชิกทีมแต่ละคนนั้น มีศักยภาพมากน้อยแค่ไหน ในแต่ละด้าน แต่ละสถานการณ์การทำงาน
2. ไม่ว่าลูกทีมเป็นแบบไหน สิ่งที่ต้องทำ คือ #ต้องTransform พวกเขาให้เป็นไปตามทฤษฎี Y ให้ได้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการให้คำแนะนำในงานจริง หรือ การสนับสนุนด้านอื่นๆ เช่น การให้ feedback การสร้างแรงจูงใจ
เพราะว่า การทำงานในยุคดิจิทัล ที่สถานการณ์ มัน"เปลี่ยนไว ไม่แน่นอน ซับซ้อน คลุมเคลือ" นั้น หัวหน้าเก่งแค่คนเดียว มันเอาไม่อยู่ครับ ไม่สามารถนำให้ทีมว่องไว (Agile) ได้
ทางเดียว คือ ต้องสร้างทีมให้แข็งแกร่ง และพร้อมที่จะพึ่งพาตนเองได้ (Autonomous Team) หัวหน้าจะได้ Empower ทีมให้เขาทำงานได้ ด้วยความเชื่อใจ อย่างมุมมองของ Theory Y จริงๆ ที่ไม่ใช่โลกสวยมองแบบ Y ล่วงหน้าไปก่อน
เพียงแค่นี้ ทฤษฎี X Y ก็จะช่วยให้ทีมเราฝ่าสถานการณ์วุ่นวายในยุคนี้ได้ครับ
ยังมีทฤษฎีเก่าที่คลาสสิค และนำมาใช้ได้อีกมาก หากเอามาใช้ยุคนี้ ก็แค่ปรับแต่งเพิ่มนิดหน่อยให้เข้ายุคสมัยได้เช่นกันครับ

บทความโดย

Aniruth Tulsuk (อนิรุทธิ์ ตุลสุข)
Sr. Consultant & Facilitator-CFG 
 
M.A. Industial and Organizaional Psychology, Thammasat University
Former Learning & Development Manager, FMCG/Property
Interesting Areas:
Startup Business, Leadership Development, Behavioral Change,Trait & Personality, Visual Thinking
 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Key Takeaways จาก Leading with Purpose Mini-Workshop สรุปเนื้อหาและ Key Takeaways ที่น่าสนใจจากงานมินิเวิร์คชอป Leading with Purpose โดย อ. คม สุวรรณพิมล เกี่ยวกับ การพัฒนาผู้นำให้สอดคล้องกับ Organizational Purpose ซึ่งในปัจจุบัน เป็นสิ่งที่ทำให้องค์กรได้ทบทวนถึงเหตุผลในการคงอยู่ของธุรกิจไม่ว่าจะเป็น คุณค่าที่ส่งมอบ ผลกระทบต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ตลอดจนกระบวนการทั้งหมดขององค์กรเองว่าได้สอดคล้องกับความมุ่งหวังที่แท้จริงมากน้อยเพียงใด
Key Takeaways จาก Leading with Purpose Mini-Workshop

สรุปเนื้อหาและ Key Takeaways ที่น่าสนใจจากงานมินิเวิร์คชอป Leading with Purpose โดย อ. คม สุวรรณพิมล เกี่ยวกับ การพัฒนาผู้นำให้สอดคล้องกับ Organizational Purpose ซึ่งในปัจจุบัน เป็นสิ่งที่ทำให้องค์กรได้ทบทวนถึงเหตุผลในการคงอยู่ของธุรกิจไม่ว่าจะเป็น คุณค่าที่ส่งมอบ ผลกระทบต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ตลอดจนกระบวนการทั้งหมดขององค์กรเองว่าได้สอดคล้องกับความมุ่งหวังที่แท้จริงมากน้อยเพียงใด

มารู้จัก A.I. แบบเข้าใจง่าย ใน 1 หน้ากระดาษ AI (Artificial Intelligence) หรือ ปัญญาประดิษฐ์ เป็นองค์ประกอบสำคัญของเทคโนโลยีที่ได้รับความสนใจมากขึ้นในช่วงสมัยสมัยใหม่ ด้วยความสามารถในการจำลองและสร้างความคิดเห็นเชิงปัญญาที่มีความเป็นมนุษย์ได้ การพัฒนา AI ได้เกิดแนวคิดและเทคนิคหลายแบบเพื่อให้สามารถแก้ปัญหาที่ซับซ้อนและจำลองกระบวนการคิดของมนุษย์ได้ ดังนั้นเราสามารถแบ่งประเภทของ AI ได้เป็นระดับต่อไปนี้
มารู้จัก A.I. แบบเข้าใจง่าย ใน 1 หน้ากระดาษ

AI (Artificial Intelligence) หรือ ปัญญาประดิษฐ์ เป็นองค์ประกอบสำคัญของเทคโนโลยีที่ได้รับความสนใจมากขึ้นในช่วงสมัยสมัยใหม่ ด้วยความสามารถในการจำลองและสร้างความคิดเห็นเชิงปัญญาที่มีความเป็นมนุษย์ได้ การพัฒนา AI ได้เกิดแนวคิดและเทคนิคหลายแบบเพื่อให้สามารถแก้ปัญหาที่ซับซ้อนและจำลองกระบวนการคิดของมนุษย์ได้ ดังนั้นเราสามารถแบ่งประเภทของ AI ได้เป็นระดับต่อไปนี้

ประชุม online ให้ได้ประสิทธิภาพ จากคำแนะนำของ  Havard Business Review ประชุม online ให้ได้ประสิทธิภาพ จากคำแนะนำของนักวิจัยและที่ปรึกษาด้านผู้นำ Havard Business Review ครับ
กดที่ภาพเพื่อดู infographic แบบเต็มๆ นะครับ
ประชุม online ให้ได้ประสิทธิภาพ จากคำแนะนำของ Havard Business Review

ประชุม online ให้ได้ประสิทธิภาพ จากคำแนะนำของนักวิจัยและที่ปรึกษาด้านผู้นำ Havard Business Review ครับ กดที่ภาพเพื่อดู infographic แบบเต็มๆ นะครับ

กฎ 10 ประการในการประชุมแบบ อลัน มูลัลลี่ (Allan Mulally) อลัน มูลัลลี่ คือ อดีต CEO ของ Ford Motor ผู้เคยบริหารงานจนพลิกวิกฤตของ Boeing ได้นำวิธีการบริหารที่ประสบความสำเร็จมาใช้ หนึ่งในนั้นคือวิธีการประชุม Business Plan Review ที่มีกฎ 10 ประการ เพื่อให้พนักงานได้เป็นส่วนหนึ่งของทีมและมุ่งหาผลลัพธ์ร่วมกันอย่างแท้จริง
กฎ 10 ประการในการประชุมแบบ อลัน มูลัลลี่ (Allan Mulally)

อลัน มูลัลลี่ คือ อดีต CEO ของ Ford Motor ผู้เคยบริหารงานจนพลิกวิกฤตของ Boeing ได้นำวิธีการบริหารที่ประสบความสำเร็จมาใช้ หนึ่งในนั้นคือวิธีการประชุม Business Plan Review ที่มีกฎ 10 ประการ เพื่อให้พนักงานได้เป็นส่วนหนึ่งของทีมและมุ่งหาผลลัพธ์ร่วมกันอย่างแท้จริง

บริหารเวลาเป็น จะไม่เห็นดินพอกหางหมู ด้วยเทคนิค ​OHIO  การเลือกจะผลัดวันประกันพรุ่งนี่แหละ ที่ทำให้งานของคุณจะยิ่งยากและใช้เวลาจัดการกับนานขึ้น โดยเฉพาะ "งานเล็กๆ น้อยๆ" แถมในบางครั้ง งานเดิมก็กลับงอกมาภายหลังจนเป็นอุปสรรคเสียเอง การบริหารเวลาแบบ OHIO จึงแนะนำวิธีจัดการเวลา โดย
บริหารเวลาเป็น จะไม่เห็นดินพอกหางหมู ด้วยเทคนิค ​OHIO

การเลือกจะผลัดวันประกันพรุ่งนี่แหละ ที่ทำให้งานของคุณจะยิ่งยากและใช้เวลาจัดการกับนานขึ้น โดยเฉพาะ "งานเล็กๆ น้อยๆ" แถมในบางครั้ง งานเดิมก็กลับงอกมาภายหลังจนเป็นอุปสรรคเสียเอง การบริหารเวลาแบบ OHIO จึงแนะนำวิธีจัดการเวลา โดย

บริหารเวลาอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยเทคนิค  POMODORO  เทคนิคการบริหารเวลาแบบ Pomodoroนี้ ถูกพัฒนาจาก ฟรานเชสโก้ ซีริลโล (Francesco Cirillo) ช่วงยุค
บริหารเวลาอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยเทคนิค POMODORO

เทคนิคการบริหารเวลาแบบ Pomodoroนี้ ถูกพัฒนาจาก ฟรานเชสโก้ ซีริลโล (Francesco Cirillo) ช่วงยุค '80 มันคือวิธีการเดียวกับการแบ่งสลอตเวลาออกเป็นช่วงๆ แล้วโฟกัสกับงานให้ได้ จนกว่าเวลาที่แบ่งจะหมดลง โดยวิธีการ คือ