มารู้จัก A.I. แบบเข้าใจง่าย ใน 1 หน้ากระดาษ

วันที่: 05 ก.ค. 2566 13:27:01     แก้ไข: 05 ก.ค. 2566 13:42:26     เปิดอ่าน: 339     Blogs
AI (Artificial Intelligence) หรือ ปัญญาประดิษฐ์ เป็นองค์ประกอบสำคัญของเทคโนโลยีที่ได้รับความสนใจมากขึ้นในช่วงสมัยสมัยใหม่ ด้วยความสามารถในการจำลองและสร้างความคิดเห็นเชิงปัญญาที่มีความเป็นมนุษย์ได้ การพัฒนา AI ได้เกิดแนวคิดและเทคนิคหลายแบบเพื่อให้สามารถแก้ปัญหาที่ซับซ้อนและจำลองกระบวนการคิดของมนุษย์ได้ ดังนั้นเราสามารถแบ่งประเภทของ AI ได้เป็นระดับต่อไปนี้:
  • การประมวลผลที่สมบูรณ์ (Strong AI) - หรือบางครั้งเรียกว่า AGI (Artificial General Intelligence) เป็นระบบ AI ที่มีความสามารถที่ใกล้เคียงกับปัญญามนุษย์ สามารถทำงานในทุกมิติของความรู้และการคิดเชิงสร้างสรรค์ได้ โดยรวมถึงการเรียนรู้และปรับตัวเองได้ตลอดเวลา สตรีมนี้เป็นวิสัยทัศน์หลักของ AI ที่ท้าทายและยากที่จะบรรลุถึงในปัจจุบัน
  • การประมวลผลที่จำกัด (Narrow AI) - หรือเรียกอีกชื่อว่า ANI (Artificial Narrow Intelligence) เป็นระบบ AI ที่มีความสามารถในการทำงานในพื้นที่หนึ่งเท่านั้น ตัวอย่างเช่นระบบค้นหาและตอบคำถามอัตโนมัติบนเว็บไซต์ หรือระบบรถยนต์
ในปัจจุบัน, เราสามารถแบ่งประเภทของ AI ได้เป็นหมวดหมู่ต่อไปนี้:
  1. Machine Learning (ML) - เป็นกลุ่มของเทคนิคและวิธีการที่อนุญาตให้ระบบ AI เรียนรู้และปรับปรุงด้วยตนเองจากข้อมูลที่ได้รับ โดยไม่ต้องมีการโปรแกรมโดยตรง การเรียนรู้ของเครื่องจักรอาจเป็นทางการ (supervised) หรือไม่มีการตรวจสอบ (unsupervised) และอาจใช้หลายวิธี เช่น การเรียนรู้แบบตัวแบบ (model-based learning) หรือการเรียนรู้แบบจำลอง (reinforcement learning)
  2. Deep Learning (DL) - เป็นการประมวลผล AI โดยใช้ระบบโครงข่ายประสาทเทียม (artificial neural networks) ซึ่งประกอบด้วยชั้นของโน้ต (neurons) มากมายที่มีความซับซ้อน โดย DL สามารถเรียนรู้และตรวจจับลักษณะที่ซับซ้อนในข้อมูลได้ เช่น การจดจำภาพ การแปลภาษา และการประมวลผลเสียง
  3. Natural Language Processing (NLP) - เป็นการพัฒนา AI ที่สามารถเข้าใจและประมวลผลภาษามนุษย์ได้ โดยรวมถึงการแปลภาษา การสร้างคำถามและคำตอบ การจดจำและสร้างข้อความ และการวิเคราะห์อารมณ์ในข้อความ
  4. Computer Vision - เป็นส่วนของ AI ที่เกี่ยวข้องกับการประมวลผลภาพและวิดีโอ โดยสามารถรู้จำและเข้าใจภาพ ตรวจจับวัตถุ การแยกแยะใบหน้า​


AI ส่งผลกระทบต่อการทำงานของมนุษย์อย่างมากทั้งในด้านบวกและด้านลบ

ด้านบวกอาจรวมถึง:

  • การอัตโนมัติและเพิ่มประสิทธิภาพ: AI สามารถช่วยในการอัตโนมัติงานที่ซับซ้อนและละเอียดอ่อน ทำให้มนุษย์สามารถประมวลผลข้อมูลได้เร็วขึ้นและลดความผิดพลาด
  • การประหยัดเวลาและทรัพยากร: การใช้งาน AI ช่วยลดเวลาและทรัพยากรที่ใช้ในการทำงาน โดยสามารถทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมงโดยไม่ต้องมีการพักผ่อนหรือการต้องการทรัพยากรเพิ่มเติม
  • การวิเคราะห์ข้อมูลที่ซับซ้อน: AI สามารถวิเคราะห์ข้อมูลที่มีปริมาณมากและซับซ้อนได้อย่างรวดเร็ว และช่วยให้เกิดความเข้าใจและข้อสรุปที่มีประสิทธิภาพ

แต่ผลกระทบที่เป็นไปได้จาก AI ในการทำงานด้านลบมีดังนี้:

  • สูญเสียงาน: การใช้งาน AI อาจทำให้งานบางอย่างไม่จำเป็นต้องมีมนุษย์เข้ามาทำ ซึ่งอาจส่งผลให้มีการลดงานและขาดความต้องการในงานบางประเภท
  • ข้อผิดพลาดและความไม่แม่นยำ: AI อาจมีความไม่แม่นยำหรือผิดพลาดในการประมวลผล ซึ่งอาจส่งผลให้มีความเสี่ยงในการตัดสินใจหรือการทำงานบางประเภท
  • การขาดความเข้าใจและมนุษยสัมพันธ์: AI ยังขาดความสามารถในการเข้าใจและตอบสนองต่อความรู้สึกและประสบการณ์มนุษย์ ซึ่งอาจทำให้ผู้ใช้หรือลูกค้ารู้สึกไม่พอใจหรือขาดความสัมพันธ์

เพื่อปรับตัวและอยู่ร่วมกับ AI ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ พนักงานควรพิจารณาดังนี้:

  • เพิ่มทักษะที่เกี่ยวข้อง: พนักงานควรพัฒนาทักษะและความรู้ที่เกี่ยวข้องกับ AI และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง เช่น การเข้าใจและการใช้งานเครื่องมือ AI ที่ใช้ในงานของตน
  • เรียนรู้และการพัฒนาตลอดเวลา: การเรียนรู้และการพัฒนาตลอดเวลาเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อปรับเปลี่ยนและปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจากการใช้งาน AI
  • การร่วมงานกับ AI: พนักงานควรเรียนรู้วิธีการทำงานร่วมกับ AI โดยให้ความร่วมมือและความสามารถของทั้งมนุษย์และ AI ถูกนำมาใช้งานร่วมกันเพื่อสร้างผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
  • พัฒนาทักษะที่ AI ยังไม่สามารถทำได้: การสร้างความมั่นใจในพื้นที่ที่ AI ยังไม่สามารถทำงานได้ดีเท่ามนุษย์ พนักงานควรพัฒนาทักษะที่เน้นความสร้างสรรค์ การแก้ปัญหาที่ซับซ้อน และการสร้างความรู้สึกในสิ่งที่มนุษย์สามารถทำได้ดีกว่า AI
สิ่งที่ผมอยากจะบอกคือ​ บทความนี้ทั้งหมดที่โพสมาข้างต้นคือ บทความที่ผมให้AIเขียนให้ครับ​

มีแค่​เนื้อหา​ในภาพ​ infographic ​เท่านั้น​ ที่ผมทำเอง​ ซึ่งหากจะให้ AI เค้าคิดภาพให้ก็ทำได้​ แถมเวลาน้อยกว่าเยอะมากๆ​

นี่แหละครับ​จึงเป็นเหตุผลว่า องค์กรและคนทำงาน เราต้องเตรียมตัวปรับทักษะเรื่องนี้เพื่อใช้ในการทำงานโดยด่วน อย่างที่คุณ AI เค้าแนะนำข้างต้น แล้วล่ะครับ​ จริงไหม​?

บทความและภาพกราฟฟิค โดย AI CHATGPT และ

Aniruth Tulsuk (อนิรุทธิ์ ตุลสุข)
Sr. Consultant & Facilitator-CFG 
 
M.A. Industial and Organizaional Psychology, Thammasat University
Former Learning & Development Manager, FMCG/Property
Interesting Areas:
Startup Business, Leadership Development, Behavioral Change,Trait & Personality, Visual Thinking
 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Key Takeaways จาก Leading with Purpose Mini-Workshop สรุปเนื้อหาและ Key Takeaways ที่น่าสนใจจากงานมินิเวิร์คชอป Leading with Purpose โดย อ. คม สุวรรณพิมล เกี่ยวกับ การพัฒนาผู้นำให้สอดคล้องกับ Organizational Purpose ซึ่งในปัจจุบัน เป็นสิ่งที่ทำให้องค์กรได้ทบทวนถึงเหตุผลในการคงอยู่ของธุรกิจไม่ว่าจะเป็น คุณค่าที่ส่งมอบ ผลกระทบต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ตลอดจนกระบวนการทั้งหมดขององค์กรเองว่าได้สอดคล้องกับความมุ่งหวังที่แท้จริงมากน้อยเพียงใด
Key Takeaways จาก Leading with Purpose Mini-Workshop

สรุปเนื้อหาและ Key Takeaways ที่น่าสนใจจากงานมินิเวิร์คชอป Leading with Purpose โดย อ. คม สุวรรณพิมล เกี่ยวกับ การพัฒนาผู้นำให้สอดคล้องกับ Organizational Purpose ซึ่งในปัจจุบัน เป็นสิ่งที่ทำให้องค์กรได้ทบทวนถึงเหตุผลในการคงอยู่ของธุรกิจไม่ว่าจะเป็น คุณค่าที่ส่งมอบ ผลกระทบต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ตลอดจนกระบวนการทั้งหมดขององค์กรเองว่าได้สอดคล้องกับความมุ่งหวังที่แท้จริงมากน้อยเพียงใด

ประชุม online ให้ได้ประสิทธิภาพ จากคำแนะนำของ  Havard Business Review ประชุม online ให้ได้ประสิทธิภาพ จากคำแนะนำของนักวิจัยและที่ปรึกษาด้านผู้นำ Havard Business Review ครับ
กดที่ภาพเพื่อดู infographic แบบเต็มๆ นะครับ
ประชุม online ให้ได้ประสิทธิภาพ จากคำแนะนำของ Havard Business Review

ประชุม online ให้ได้ประสิทธิภาพ จากคำแนะนำของนักวิจัยและที่ปรึกษาด้านผู้นำ Havard Business Review ครับ กดที่ภาพเพื่อดู infographic แบบเต็มๆ นะครับ

กฎ 10 ประการในการประชุมแบบ อลัน มูลัลลี่ (Allan Mulally) อลัน มูลัลลี่ คือ อดีต CEO ของ Ford Motor ผู้เคยบริหารงานจนพลิกวิกฤตของ Boeing ได้นำวิธีการบริหารที่ประสบความสำเร็จมาใช้ หนึ่งในนั้นคือวิธีการประชุม Business Plan Review ที่มีกฎ 10 ประการ เพื่อให้พนักงานได้เป็นส่วนหนึ่งของทีมและมุ่งหาผลลัพธ์ร่วมกันอย่างแท้จริง
กฎ 10 ประการในการประชุมแบบ อลัน มูลัลลี่ (Allan Mulally)

อลัน มูลัลลี่ คือ อดีต CEO ของ Ford Motor ผู้เคยบริหารงานจนพลิกวิกฤตของ Boeing ได้นำวิธีการบริหารที่ประสบความสำเร็จมาใช้ หนึ่งในนั้นคือวิธีการประชุม Business Plan Review ที่มีกฎ 10 ประการ เพื่อให้พนักงานได้เป็นส่วนหนึ่งของทีมและมุ่งหาผลลัพธ์ร่วมกันอย่างแท้จริง

บริหารเวลาเป็น จะไม่เห็นดินพอกหางหมู ด้วยเทคนิค ​OHIO  การเลือกจะผลัดวันประกันพรุ่งนี่แหละ ที่ทำให้งานของคุณจะยิ่งยากและใช้เวลาจัดการกับนานขึ้น โดยเฉพาะ "งานเล็กๆ น้อยๆ" แถมในบางครั้ง งานเดิมก็กลับงอกมาภายหลังจนเป็นอุปสรรคเสียเอง การบริหารเวลาแบบ OHIO จึงแนะนำวิธีจัดการเวลา โดย
บริหารเวลาเป็น จะไม่เห็นดินพอกหางหมู ด้วยเทคนิค ​OHIO

การเลือกจะผลัดวันประกันพรุ่งนี่แหละ ที่ทำให้งานของคุณจะยิ่งยากและใช้เวลาจัดการกับนานขึ้น โดยเฉพาะ "งานเล็กๆ น้อยๆ" แถมในบางครั้ง งานเดิมก็กลับงอกมาภายหลังจนเป็นอุปสรรคเสียเอง การบริหารเวลาแบบ OHIO จึงแนะนำวิธีจัดการเวลา โดย

บริหารเวลาอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยเทคนิค  POMODORO  เทคนิคการบริหารเวลาแบบ Pomodoroนี้ ถูกพัฒนาจาก ฟรานเชสโก้ ซีริลโล (Francesco Cirillo) ช่วงยุค
บริหารเวลาอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยเทคนิค POMODORO

เทคนิคการบริหารเวลาแบบ Pomodoroนี้ ถูกพัฒนาจาก ฟรานเชสโก้ ซีริลโล (Francesco Cirillo) ช่วงยุค '80 มันคือวิธีการเดียวกับการแบ่งสลอตเวลาออกเป็นช่วงๆ แล้วโฟกัสกับงานให้ได้ จนกว่าเวลาที่แบ่งจะหมดลง โดยวิธีการ คือ

ประชุมแบบไหน ถึงให้ได้ผลลัพธ์แบบผู้บริหาร การประชุมหลายครั้ง ทำเหมือนเป็นธรรมเนียม แถมจบแล้วเหมือนไม่ได้บทสรุป จนรู้สึกว่าเสียเวลาฟรีๆ ถ้าเช่นนั้น มาลองเอาเทคนิคของผู้บริหารระดับโลกชื่อดังอย่าง Jeff Bezos , Elon Musk,  Richard Branson, Larry Page ไปใช้หน่อยดีไหม?
ประชุมแบบไหน ถึงให้ได้ผลลัพธ์แบบผู้บริหาร

การประชุมหลายครั้ง ทำเหมือนเป็นธรรมเนียม แถมจบแล้วเหมือนไม่ได้บทสรุป จนรู้สึกว่าเสียเวลาฟรีๆ ถ้าเช่นนั้น มาลองเอาเทคนิคของผู้บริหารระดับโลกชื่อดังอย่าง Jeff Bezos , Elon Musk, Richard Branson, Larry Page ไปใช้หน่อยดีไหม?