5 สิ่งสำคัญ ที่ CEO ต้องทำ เพื่อเปลี่ยนแปลงองค์กรไปสู่ Digital

วันที่: 17 ก.ย. 2564 12:05:08     แก้ไข: 14 มี.ค. 2565 10:09:21     เปิดอ่าน: 1,985     Blogs
5 สิ่งสำคัญ ที่ CEO ต้องทำ เพื่อเปลี่ยนแปลงองค์กรไปสู่ Digital จริงอยู่ว่าบทความนี้ พูดถึง Management ระดับสูง แต่ท้ายที่สุด ทิศทางนั้นก็จะเป็นนโยบาย เพื่อให้เราๆ ท่านๆ ได้นำมาปฏิบัติอยู่ดีครับ 
1. เน้นกลยุทธ์เพื่อความยั่งยืน (Center strategy on sustainable)
การผลิตสินค้าและบริการที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด เพราะจะทำให้บริโภคและหน่วยงานที่กำกับดูแลนั้นอยู่ข้างเดียวกับองค์กรของคุณ สิ่งนี้ต้องรวมอยู่ในแผนพัฒนาด้านดิจิทัลและกลยุทธ์ด้วย จึงจะช่วยในการแข่งขันระยะยาว ดังนั้น ถ้าผู้อ่านอยู่ในส่วนงานที่เกี่ยวข้องด้านใด ก็เตรียมคิดแผนงานที่สนับสนุนองค์กรไว้ด้วยนะครับ
2. ผันองค์กรสู่คลาวด์ (Transform in the cloud)
เทคโนโลยีคลาวด์ มีความจำเป็นอย่างมากที่จะต้องนำมาใช้ และต้องทำให้คนในองค์กร เข้าใจ และรู้ถึงประโยชน์ จนนำไปใช้ในงานของพวกเขาได้
ดังนั้น เตรียมทำความเข้าใจไว้ก่อนเลยนะครับ

3. เร่งสร้างคนเก่ง (Cultivate your talent)
จะชนะเกม ตัวผู้เล่นเป็นแต้มต่อ องค์กรที่เตรียมคนสำหรับอนาคตได้ดีว่า จึงมีโอกาสที่มากว่าที่จะเป็น Winner และ Take all ที่ผู้ชนะ สมควรได้ แนวทางกว้างๆ คือ ต้องสร้างความยืดหยุ่น ลดโครงสร้างลำดับชั้น และให้มีความหลากหลาย
ตรงนี้ผมขอเพิ่มเติมจากบทความว่า สำหรับหัวหน้างานที่จะช่วยองค์กรได้ นอกจากพัฒนาแล้ว ต้องรักษาคนให้ดีด้วย เพราะหลายๆ ครั้ง ที่คนเก่งออกจากองค์กรเพราะ หัวหน้าหลายๆคน ไม่ทันคิดในจุดนี้ ทั้งๆ ที่การรักษาคนนั้น เผลอๆ จะง่ายกว่าการพัฒนาและควานหาคนมาอีกด้วย

4. เร่งความเร็วให้องค์กร (Press the need for speed)
เร็วกว่าได้เปรียบ ไม่ได้หมายความว่า เร่งเครื่องทำงานให้เร็วนะ แต่ต้องออกแบบการทำงานให้ฉลาดขึ้นได้ผลลัพธ์ทั้งประสิทธิผลและประสิทธิภาพด้วยนะครับ
เตรียมทีมคุณได้เลย CEO มีทิศทางแบบนี้แน่นอนครับ

5. ดำเนินการตามจุดมุ่งหมาย (Operate with purpose) 
ทุกคนต้องมีจุดมุ่งหมายในชีวิตครับ และงานวิจัยบอกว่า ถ้าองค์กรสื่อสารเรื่องจุดมุ่งหมายนี้ได้ดี และสร้างสมดุลระหว่างจุดมุ่งหมายขององค์กรและพนักงานแล้วละก็ ทุกคนจะมีแรงใจในการทำงานในยุคหน้ามากยิ่งกว่าเดิมครับ
นอกจากนี้ยังช่วยในการรักษาพนักงานให้อยู่กับองค์กรตามที่บอกไว้ในข้อก่อนหน้านี้ด้วย ไม่ว่าเราจะอยู่ในส่วนใดขององค์กร สื่อสารและส่งเสริมให้ทีมเราเห็นภาพจุดมุ่งหมายนี้ให้ได้นะครับ อย่าปล่อยให้พวกเขา แรงใจหมดลงทุกวันๆ และทำงานอย่างไร้จุดหมายเลย
เป็น Leader ใครก็เป็นได้ แต่จะเป็น Leader ที่ดีนั้น เรื่องเหล่านี้สำคัญมากๆ ครับ แม้บทความจะบอกว่า 5 สิ่งนี้ คือ สิ่งที่ CEO ต้องทำก็ตาม แต่จริงๆ แล้ว ไม่ว่าเป็นผู้นำระดับใดส่วนงานใด ก็สามารถนำไปใช่ได้

เพราะคุณทุกคน คือ CEO ในส่วนงานของคุณครับ

บทความโดย

Aniruth Tulsuk (อนิรุทธิ์ ตุลสุข)
Sr. Consultant & Facilitator-CFG 
 
M.A. Industial and Organizaional Psychology, Thammasat University
Former Learning & Development Manager, FMCG/Property
Interesting Areas:
Startup Business, Leadership Development, Behavioral Change,Trait & Personality, Visual Thinking
 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

5 กลยุทธ์ผู้นำที่ทำให้เกิด High Performance Environment การเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วในวันนี้ หัวหน้างานที่ยังคงต้องทำบทบาทในการปรับทีมงานให้พร้อมรับมือการเปลี่ยนแปลงเสมอ เพื่อให้เกิดบรรยากาศแบบ High Performance Environment หรือ ทีมงานมีไฟมีพลังสู้รบกับการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ซึ่ง 5 วิธีที่หัวหน้าสามารถเริ่มทำได้ทันที ได้แก่
5 กลยุทธ์ผู้นำที่ทำให้เกิด High Performance Environment

การเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วในวันนี้ หัวหน้างานที่ยังคงต้องทำบทบาทในการปรับทีมงานให้พร้อมรับมือการเปลี่ยนแปลงเสมอ เพื่อให้เกิดบรรยากาศแบบ High Performance Environment หรือ ทีมงานมีไฟมีพลังสู้รบกับการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ซึ่ง 5 วิธีที่หัวหน้าสามารถเริ่มทำได้ทันที ได้แก่

ทำไม? เมื่อผู้นำตั้งใจทำดีมากไป ผลที่ได้กลับกลายเป็นร้ายในทันที คุณมักได้ยินคำแนะนำมากมายเกี่ยวกับการเป็นผู้นำที่ดี เช่น ต้องรับฟังให้เยอะพูดให้น้อย ต้องเข้าอกเข้าใจ ต้องพัฒนาเรียนรู้ตลอดเวลา ต้องมีเหตุผล ต้องแสดงความรับผิดชอบและทำให้งานสำเร็จ สิ่งต่างๆเหล่านี้ ล้วนเป็นการกระทำที่ดีทั้งนั้น แต่รู้ไหมว่า จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าคุณทำสิ่งข้างต้นเรื่องใดเรื่องหนึ่งมากเกินไป
ทำไม? เมื่อผู้นำตั้งใจทำดีมากไป ผลที่ได้กลับกลายเป็นร้ายในทันที New

คุณมักได้ยินคำแนะนำมากมายเกี่ยวกับการเป็นผู้นำที่ดี เช่น ต้องรับฟังให้เยอะพูดให้น้อย ต้องเข้าอกเข้าใจ ต้องพัฒนาเรียนรู้ตลอดเวลา ต้องมีเหตุผล ต้องแสดงความรับผิดชอบและทำให้งานสำเร็จ สิ่งต่างๆเหล่านี้ ล้วนเป็นการกระทำที่ดีทั้งนั้น แต่รู้ไหมว่า จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าคุณทำสิ่งข้างต้นเรื่องใดเรื่องหนึ่งมากเกินไป

การสื่อสาร 3 มิติ ที่หัวหน้าต้องรู้ เพื่อให้งานได้ผลลัพธ์ ถ้าพูดว่าการทำงานหลักๆของผู้บริหาร หรือหัวหน้า คือการสื่อสาร ภาพในหัวของหลายคนก็จะมีภาพว่าหัวหน้าต้อง present ได้เก่ง โน้มน้าวหรือ พูดได้รู้เรื่อง ซึ่งก็นับว่า จริง แต่แค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะผู้บริหารมีหน้าที่ต้องบริหารคนให้ทำงานให้บรรลุเป้าหมายให้ได้ ดังนั้นการสื่อสารของหัวหน้าจึงมีหลากหลายมิติ โดยถ้าแยกแบบคร่าวๆ ก็จะมีอยู่ 3 มิติ ดังนี้
การสื่อสาร 3 มิติ ที่หัวหน้าต้องรู้ เพื่อให้งานได้ผลลัพธ์ New

ถ้าพูดว่าการทำงานหลักๆของผู้บริหาร หรือหัวหน้า คือการสื่อสาร ภาพในหัวของหลายคนก็จะมีภาพว่าหัวหน้าต้อง present ได้เก่ง โน้มน้าวหรือ พูดได้รู้เรื่อง ซึ่งก็นับว่า จริง แต่แค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะผู้บริหารมีหน้าที่ต้องบริหารคนให้ทำงานให้บรรลุเป้าหมายให้ได้ ดังนั้นการสื่อสารของหัวหน้าจึงมีหลากหลายมิติ โดยถ้าแยกแบบคร่าวๆ ก็จะมีอยู่ 3 มิติ ดังนี้

2 หัวใจสำคัญ การสื่อสาร ที่เป็นงานสำคัญของหัวหน้า จากที่เคยพูดถึงว่าทักษะสำคัญของหัวหน้าคือการสื่อสาร ซึ่งมีหลากหลายวัตถุประสงค์ ในโพสนี้ ขออธิบายการสื่อสารที่เป็นจุดเริ่มต้นของการทำงาน คือ”การสั่งงาน” ซึ่งดูแล้วเหมือนกับเรื่องง่ายๆ ที่ใครๆก็น่าจะสั่งงานได้ แต่หัวใจสำคัญคือ
2 หัวใจสำคัญ การสื่อสาร ที่เป็นงานสำคัญของหัวหน้า New

จากที่เคยพูดถึงว่าทักษะสำคัญของหัวหน้าคือการสื่อสาร ซึ่งมีหลากหลายวัตถุประสงค์ ในโพสนี้ ขออธิบายการสื่อสารที่เป็นจุดเริ่มต้นของการทำงาน คือ”การสั่งงาน” ซึ่งดูแล้วเหมือนกับเรื่องง่ายๆ ที่ใครๆก็น่าจะสั่งงานได้ แต่หัวใจสำคัญคือ

บทบาทหัวหน้างาน ไม่ได้มีแค่การสั่งแล้วตามจิก หลายคนรู้สึกว่าหัวหน้าไม่เห็นทำงานอะไรเลย ได้แต่สั่งงานแล้วก็ตามงาน แถมหัวหน้าบางคนก็ตามแบบจิกๆ อีกต่างหาก ทำแบบนี้หัวหน้าทำถูกหรือไม่?
ที่นี่เรามาดูหน้าที่หลักๆของหัวหน้าว่าเขาต้องทำอะไรบ้าง
บทบาทหัวหน้างาน ไม่ได้มีแค่การสั่งแล้วตามจิก

หลายคนรู้สึกว่าหัวหน้าไม่เห็นทำงานอะไรเลย ได้แต่สั่งงานแล้วก็ตามงาน แถมหัวหน้าบางคนก็ตามแบบจิกๆ อีกต่างหาก ทำแบบนี้หัวหน้าทำถูกหรือไม่? ที่นี่เรามาดูหน้าที่หลักๆของหัวหน้าว่าเขาต้องทำอะไรบ้าง

Catfish Effect บริหารพนักงานให้แกร่ง จากแรงฮึดเพื่ออยู่รอด Catfish Effect (เอฟเฟกต์ปลาดุก) คือผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการมีคู่แข่งที่มีแข็งแกร่งเข้ามา จนทำให้คู่แข่งที่อ่อนแอ มีการพัฒนาตนเองให้ดีขึ้น
แนวคิดนี้เกิดขึ้นจากอะไร? และนำมาใช้เพื่อกระตุ้นความกระตือรือร้นของพนักงานและเพิ่มประสิทธิภาพของพนักงาน ได้อย่างไร? มารู้กันจาก blog นี้
Catfish Effect บริหารพนักงานให้แกร่ง จากแรงฮึดเพื่ออยู่รอด

Catfish Effect (เอฟเฟกต์ปลาดุก) คือผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการมีคู่แข่งที่มีแข็งแกร่งเข้ามา จนทำให้คู่แข่งที่อ่อนแอ มีการพัฒนาตนเองให้ดีขึ้น แนวคิดนี้เกิดขึ้นจากอะไร? และนำมาใช้เพื่อกระตุ้นความกระตือรือร้นของพนักงานและเพิ่มประสิทธิภาพของพนักงาน ได้อย่างไร? มารู้กันจาก blog นี้