The Winning GamePlan เกมนี้องค์กรต้องชนะ

วันที่: 20 ก.พ. 2564 18:47:41     แก้ไข: 22 เม.ย. 2564 09:38:06     เปิดอ่าน: 2,211     Blogs
ก่อนหน้านี้ ผมได้ลง VDO แนะนำหลักสูตรใหม่ของ Coach For Goal ไป ซึ่งเป็นโปรแกรมล่าสุดที่ออกแบบมา เพื่อให้บุคลากรขององค์กรสามารถเรียนรู้ผ่านระบบ Online ได้
อย่างที่เรารู้กันดีครับ ว่าปกติแล้ว ถ้าเลือกได้ หลายๆ ท่านคงอยากที่จะเรียนแบบเจอหน้าเจอตากันมากกว่า เพราะพูดคุยกับอาจารย์ได้ทันที ทำกิจกรรม และแลกเปลี่ยนความคิดกับเพื่อนๆ ในชั้นเรียน ได้สะดวกกว่าผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์
โดยเฉพาะถ้าบริษัทไหนจัดที่โรงแรมด้วยแล้ว ยิ่งชอบเป็นพิเศษ เพราะได้ออกจากบรรยากาศที่วุ่นวายในการทำงาน ไม่ต้องมีลูกน้องมาเลือกให้เซ็นงาน หรือ แก้ไขปัญหาลูกค้าให้
ยิ่งกว่านั้น ยังมีอาหารอร่อยๆ อินเตอร์บุฟเฟ่ต์ ให้รับประทานกันด้วย จริงไหมครับ?
แต่ด้วยสถานการณ์โควิด ก็เป็นอุปสรรค ทำให้การจัดอบรมในแบบเดิมเป็นได้ยาก แม้ว่าช่วงนี้หลายองค์กร จะเริ่มผ่อนคลายมากกว่าช่วงต้นปีแล้วก็ตาม
ทาง Coach For Goal จึงคิดหาทางว่า ทำอย่างไร ผู้ที่เรียนผ่านระบบออนไลน์ จึงจะได้รับประสบการณ์เรียนรู้ให้ใกล้เคียงการเรียนในแบบ Workshop จริงๆ ให้ได้มากที่สุด โดยที่ไม่ใช้แค่การได้ความรู้ผ่านการฟัง (Lecture) เพียงอย่างเดียว
แต่ต้องได้ทำกิจกรรมด้วย เพื่อให้เกิดการเรียนรู้จริงๆ และนำไปใช้ในการทำงานได้
ไม่อย่างนั้น จะไม่มีใครได้รับประโยชน์เลย ไม่ว่าจะเป็น องค์กรที่ต้องเสียต้นทุนทั้งงบประมาณและต้นทุนด้านเวลาของบุคลากร หรือ แม้แต่ผู้เรียนทุกท่านที่ต้องสละเวลาในการทำงานที่มีคุณค่ามาร่วมอบรม
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หน่วยงาน HR ที่พยายามตั้งใจหาหลักสูตร เพื่อให้ตอบโจทย์ และบากหน้าไปของบประมาณจากองค์กร แต่กลับไม่ได้ผลตามที่คาดหวัง

โปรแกรม The Winning GamePlan จึงถูกออกแบบมาอย่างตั้งใจ โดยที่เรามองว่า
การแข่งขันทางธุรกิจ ก็เปรียบเสมือน เกมกีฬา ที่ทุกง่ายก็ต้องแข่งขันกัน โดยที่มุ่งหวังจะเป็น "ผู้ชนะ" ในเกมการแข่งขันนั้น
"แผนการเล่น" จึงมีความสำคัญมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคปัจจุบัน ที่สถานการณ์มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
องค์กรจึงต้องมีแผนที่หลากหลาย เพื่อให้รองรับสถานการณ์ที่เหมาะสมได้
สิ่งนี้คือ GamePlan นั่นเองครับ ใน The Winning GamePlan นั้น
เรามองว่ามีองค์ประกอบสิ่งอย่าง คือ
1. Flexibility คือ การมองสภาพแวดล้อมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ ว่าเปลี่ยนไปแบบไหน
2. Organization Goal คือ เป้าหมายขององค์กร แต่ละองค์กรก็มีเป้าหมายที่แตกต่างกันนะครับ
ดังนั้นจึงต้องแม่นยำว่า องค์กรของเราต้องการไปยังจุดไหน ไม่ว่าจะเป็นกำไร หรือ ส่วนแบ่งทางการตลาด มูลค่าหุ้น ฯลฯ ก็ตาม
3. Systematic คือ การมองอย่างเป็นระบบ ว่าสิ่งต่างๆ ส่งผลกระทบต่อกันอย่างไร และแปลงกระบวนการต่างๆ ให้จับต้องได้อย่างชัดเจน
4. People คือ คนในองค์กร ซึ่งก็คือ "ผู้เล่น" เพราะเป็นส่วนสำคัญที่สุดในการขับเคลื่อนกลยุทธ์ หรือ แผนการเล่นขององค์กรนั่นเอง

ด้วยองค์ประกอบทั้งหมดนี้ ทำให้ The Winning GamePlan แบ่งออกเป็น Playsheet หรือ รูปแบบการเล่น 4 แบบ คือ


PLAYSHEETS



1. Stop Your Flase Start (Organization Goal - Flexibility)
หยุดความผิดพลาดก่อนที่จะเกิด หลายคนอาจมองว่าความผิดพลาดเป็นเรื่องปกติในยุคนี้ แต่จะดีกว่าไหมครับ ถ้าเราสามารถลดปริมาณความผิดพลาดให้น้อยลง หรือไม่เริ่มมันตั้งแต่แรก เพราะเวลาที่เสียไป ก็คือว่าเป็นต้นทุนที่สำคัญขององค์กรเช่นกัน
2. The Quick Charger (Flexibility-People)
เป็น playsheet ของหัวหน้าทีม (Team Lead) ที่ใช้ในการนำทีมและเปลี่ยนแปลงทีมให้รวดเร็วต่อการตอบสนองกับสถานการณ์ และกลยุทธ์ที่เปลี่ยนไป หัวหน้าทีม จึงต้องเป็นผู้ที่สร้างพลังการเปลี่ยนแปลงนี้
3. The Performing Squad (Systematic-People)
เป็นการส่งเสริมและสนับสนุนให้คนทำงานอย่างเป็นระบบ และมี Mindset ที่เหมาะสม รับผิดชอบและดำเนินการตามบทบาทหน้าที่ของตัวเองได้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของโลกทุกวันนี้
4. Formation X (Organization Goal-Systematic)
คือ การแปลงเป้าหมาย (Goal) ให้เป็นกลยุทธ์ (Strategy) และนำไปสู่การดำเนินการ (Execution) อย่างเป็นระบบ และบรรลุเป้าหมาย
ไม่ต้องเรียนหมด หากดูแล้วว่าสถานการณ์องค์กร ต้องเน้นจุดไหน ก็เลือกพัฒนาผู้เล่นขององค์กร ตาม Play sheet ที่เหมาะสมได้เลยครับ

"ความพิเศษ" ที่ผมบอกไปข้างต้นว่าจะต้องใกล้เคียง Workshop จริงๆ ก็คือ เราจะมีกิจกรรมที่ออกแบบ เพื่อให้เกิดผลตามวัตถุประสงค์ในแต่ละหัวข้อการเรียนที่วางไว้ครับ

สามารถ Download
รายละเอียดของโปรแกรมนี้ข้างล่างเลย
หากต้องการสอบถามเพิ่มเติมก็โทรเข้ามาที่ 02-946-5699 หรือ จะทักแชทมาที่มุมขวาล่างก็ยินดีครับ


บทความโดย

Aniruth Tulsuk (อนิรุทธิ์ ตุลสุข)
Sr. Consultant & Facilitator-CFG 
 
M.A. Industial and Organizaional Psychology, Thammasat University
Former Learning & Development Manager, FMCG/Property
Interesting Areas:
Startup Business, Leadership Development, Behavioral Change,Trait & Personality, Visual Thinking

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

5 กลยุทธ์ผู้นำที่ทำให้เกิด High Performance Environment การเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วในวันนี้ หัวหน้างานที่ยังคงต้องทำบทบาทในการปรับทีมงานให้พร้อมรับมือการเปลี่ยนแปลงเสมอ เพื่อให้เกิดบรรยากาศแบบ High Performance Environment หรือ ทีมงานมีไฟมีพลังสู้รบกับการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ซึ่ง 5 วิธีที่หัวหน้าสามารถเริ่มทำได้ทันที ได้แก่
5 กลยุทธ์ผู้นำที่ทำให้เกิด High Performance Environment

การเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วในวันนี้ หัวหน้างานที่ยังคงต้องทำบทบาทในการปรับทีมงานให้พร้อมรับมือการเปลี่ยนแปลงเสมอ เพื่อให้เกิดบรรยากาศแบบ High Performance Environment หรือ ทีมงานมีไฟมีพลังสู้รบกับการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ซึ่ง 5 วิธีที่หัวหน้าสามารถเริ่มทำได้ทันที ได้แก่

ทำไม? เมื่อผู้นำตั้งใจทำดีมากไป ผลที่ได้กลับกลายเป็นร้ายในทันที คุณมักได้ยินคำแนะนำมากมายเกี่ยวกับการเป็นผู้นำที่ดี เช่น ต้องรับฟังให้เยอะพูดให้น้อย ต้องเข้าอกเข้าใจ ต้องพัฒนาเรียนรู้ตลอดเวลา ต้องมีเหตุผล ต้องแสดงความรับผิดชอบและทำให้งานสำเร็จ สิ่งต่างๆเหล่านี้ ล้วนเป็นการกระทำที่ดีทั้งนั้น แต่รู้ไหมว่า จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าคุณทำสิ่งข้างต้นเรื่องใดเรื่องหนึ่งมากเกินไป
ทำไม? เมื่อผู้นำตั้งใจทำดีมากไป ผลที่ได้กลับกลายเป็นร้ายในทันที New

คุณมักได้ยินคำแนะนำมากมายเกี่ยวกับการเป็นผู้นำที่ดี เช่น ต้องรับฟังให้เยอะพูดให้น้อย ต้องเข้าอกเข้าใจ ต้องพัฒนาเรียนรู้ตลอดเวลา ต้องมีเหตุผล ต้องแสดงความรับผิดชอบและทำให้งานสำเร็จ สิ่งต่างๆเหล่านี้ ล้วนเป็นการกระทำที่ดีทั้งนั้น แต่รู้ไหมว่า จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าคุณทำสิ่งข้างต้นเรื่องใดเรื่องหนึ่งมากเกินไป

การสื่อสาร 3 มิติ ที่หัวหน้าต้องรู้ เพื่อให้งานได้ผลลัพธ์ ถ้าพูดว่าการทำงานหลักๆของผู้บริหาร หรือหัวหน้า คือการสื่อสาร ภาพในหัวของหลายคนก็จะมีภาพว่าหัวหน้าต้อง present ได้เก่ง โน้มน้าวหรือ พูดได้รู้เรื่อง ซึ่งก็นับว่า จริง แต่แค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะผู้บริหารมีหน้าที่ต้องบริหารคนให้ทำงานให้บรรลุเป้าหมายให้ได้ ดังนั้นการสื่อสารของหัวหน้าจึงมีหลากหลายมิติ โดยถ้าแยกแบบคร่าวๆ ก็จะมีอยู่ 3 มิติ ดังนี้
การสื่อสาร 3 มิติ ที่หัวหน้าต้องรู้ เพื่อให้งานได้ผลลัพธ์ New

ถ้าพูดว่าการทำงานหลักๆของผู้บริหาร หรือหัวหน้า คือการสื่อสาร ภาพในหัวของหลายคนก็จะมีภาพว่าหัวหน้าต้อง present ได้เก่ง โน้มน้าวหรือ พูดได้รู้เรื่อง ซึ่งก็นับว่า จริง แต่แค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะผู้บริหารมีหน้าที่ต้องบริหารคนให้ทำงานให้บรรลุเป้าหมายให้ได้ ดังนั้นการสื่อสารของหัวหน้าจึงมีหลากหลายมิติ โดยถ้าแยกแบบคร่าวๆ ก็จะมีอยู่ 3 มิติ ดังนี้

2 หัวใจสำคัญ การสื่อสาร ที่เป็นงานสำคัญของหัวหน้า จากที่เคยพูดถึงว่าทักษะสำคัญของหัวหน้าคือการสื่อสาร ซึ่งมีหลากหลายวัตถุประสงค์ ในโพสนี้ ขออธิบายการสื่อสารที่เป็นจุดเริ่มต้นของการทำงาน คือ”การสั่งงาน” ซึ่งดูแล้วเหมือนกับเรื่องง่ายๆ ที่ใครๆก็น่าจะสั่งงานได้ แต่หัวใจสำคัญคือ
2 หัวใจสำคัญ การสื่อสาร ที่เป็นงานสำคัญของหัวหน้า New

จากที่เคยพูดถึงว่าทักษะสำคัญของหัวหน้าคือการสื่อสาร ซึ่งมีหลากหลายวัตถุประสงค์ ในโพสนี้ ขออธิบายการสื่อสารที่เป็นจุดเริ่มต้นของการทำงาน คือ”การสั่งงาน” ซึ่งดูแล้วเหมือนกับเรื่องง่ายๆ ที่ใครๆก็น่าจะสั่งงานได้ แต่หัวใจสำคัญคือ

บทบาทหัวหน้างาน ไม่ได้มีแค่การสั่งแล้วตามจิก หลายคนรู้สึกว่าหัวหน้าไม่เห็นทำงานอะไรเลย ได้แต่สั่งงานแล้วก็ตามงาน แถมหัวหน้าบางคนก็ตามแบบจิกๆ อีกต่างหาก ทำแบบนี้หัวหน้าทำถูกหรือไม่?
ที่นี่เรามาดูหน้าที่หลักๆของหัวหน้าว่าเขาต้องทำอะไรบ้าง
บทบาทหัวหน้างาน ไม่ได้มีแค่การสั่งแล้วตามจิก

หลายคนรู้สึกว่าหัวหน้าไม่เห็นทำงานอะไรเลย ได้แต่สั่งงานแล้วก็ตามงาน แถมหัวหน้าบางคนก็ตามแบบจิกๆ อีกต่างหาก ทำแบบนี้หัวหน้าทำถูกหรือไม่? ที่นี่เรามาดูหน้าที่หลักๆของหัวหน้าว่าเขาต้องทำอะไรบ้าง

Catfish Effect บริหารพนักงานให้แกร่ง จากแรงฮึดเพื่ออยู่รอด Catfish Effect (เอฟเฟกต์ปลาดุก) คือผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการมีคู่แข่งที่มีแข็งแกร่งเข้ามา จนทำให้คู่แข่งที่อ่อนแอ มีการพัฒนาตนเองให้ดีขึ้น
แนวคิดนี้เกิดขึ้นจากอะไร? และนำมาใช้เพื่อกระตุ้นความกระตือรือร้นของพนักงานและเพิ่มประสิทธิภาพของพนักงาน ได้อย่างไร? มารู้กันจาก blog นี้
Catfish Effect บริหารพนักงานให้แกร่ง จากแรงฮึดเพื่ออยู่รอด

Catfish Effect (เอฟเฟกต์ปลาดุก) คือผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการมีคู่แข่งที่มีแข็งแกร่งเข้ามา จนทำให้คู่แข่งที่อ่อนแอ มีการพัฒนาตนเองให้ดีขึ้น แนวคิดนี้เกิดขึ้นจากอะไร? และนำมาใช้เพื่อกระตุ้นความกระตือรือร้นของพนักงานและเพิ่มประสิทธิภาพของพนักงาน ได้อย่างไร? มารู้กันจาก blog นี้