คินสึงิ (Kintsugi) แนวคิดเปลี่ยนความล้มเหลวให้เป็นความงดงาม

วันที่: 28 ม.ค. 2563 13:23:43     แก้ไข: 21 ก.ค. 2563 15:59:41     เปิดอ่าน: 3,275     Blogs

"งานนี้ฉันพลาดละ มันเป็นความล้มเหลวครั้งใหญ่มากๆ"

ความรู้สึกนี้ เกิดขึ้นได้กับทุกคน แม้ว่าจะรู้ว่าความผิดพลาดเป็นเรื่องธรรมชาติมากๆ ที่เกิดขึ้นกับคนเรา

นั่นเป็นเพราะ ทุกความล้มเหลว ย่อมมีผลกระทบ
อาจมี การร้องเรียนจากลูกค้า
ถัดมา อาจได้คำติเตียนจากนาย
ชื่อเสียง ตำแหน่ง เงินทองของเรา อาจจะเสียหาย

แต่เชื่อไหมครับว่า สิ่งที่ทำร้ายจิตใจตัวเรามากที่สุด
เป็นคำต่อว่าของตัวเองที่ก้องกังวานสะท้อนในหัวอยู่ทุกครั้งที่เรานึกถึงมัน
สำหรับหลายๆ คน จำนวนครั้งของคำติเตียนตัวเองนั้น
มันมากยิ่งกว่าจากคนอื่นทั้งหมดรวมกันเสียอีก
.

"ฉันห่วยมากที่ทำงานนี้พลาด"
"ฉันไม่เหลือแรงแก้ไขปัญหานี้แล้ว"
"โลกของฉันคงต้องพังลงในไม่ช้า" ฯลฯ


เมื่อความคิดบอบช้ำ
จิตใจก็เกิดบาดแผลและเป็นรอยร้าว
ร่างกายจึงไม่เหลือเรี่ยวแรงที่จะยืนหยัด
และพาตัวเองไปสู่เป้าหมายที่ตั้งใจ

ท้ายที่สุด ความรู่สึกถึงคุณค่าในตัวเองก็จะลดลง คงไว้ให้เห็นแต่ความซึมเศร้าและหมดไฟในการทำงาน

"When solving problems, dig at the roots instead of just hacking at the leaves." -Anthony J. D'Angelo-

"เมื่อจะแก้ปัญหาให้ขุดไปถึงราก ไม่ใช่แค่ตัดใบ"
รากของความรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนล้มเหลว จึงอยู่ที่ "ความคิด"

"คินสึงิ (Kintsugi)" คือ แนวคิดหนึ่งที่ช่วยเยียวยา จิตใจบอบช้ำที่เกิดจากความล้มเหลว ให้กลับมาเข้มแข็งอีกครั้ง

เดิมที คินสึงิ คือชื่อของวิธีการซ่อมแซมรอยร้าวเครื่องปั้นดินเผาของญี่ปุ่น ด้วยการใช้สิ่งคล้ายกาวที่เกิดจากการผสมครั่ง เรซิ่น เข้ากับผงโลหะต่างๆ เช่น ทอง เงิน หรือ ทองคำขาว

เมื่อชิ้นส่วนที่แตกร้าวของภาชนะนั้น ถูกประสานเข้ากัน ตำหนิที่เคยน่าเกลียด จะกลับกลายเป็นลวดลายศิลปะที่งดงามอย่างคาดไม่ถึง

เช่นเดียวกัน ความผิดพลาดในอดีตของคน หากรู้จักวิธีประสานรอยร้าวของจิตใจ ช่วงเวลาอันเจ็บปวดของชีวิตนั้น ก็ผันเป็นหนทางพัฒนาศักยภาพที่ตัวเองมีได้ เพียงกาวที่ใช้นั้น ไม่ใช่สสารทางกายภาพแต่เป็นชุดความคิด ที่มีส่วนผสมจาก

  • Wabi Sabi การยอมรับว่า ชีวิตคนเรามีทั้งส่วนดีและส่วนไม่ดี ความไม่สมบูรณ์พร้อม คือ ธรรมชาติแท้ๆ ของคน และนั่นทำให้เราสามารถพัฒนาได้
  • Gaman คือ รู้จักสงบจิตสงบใจ เมื่อใจไม่วอกแวก ความอดทนก็มาก ขึ้น ความแข็งแกร่งของจิตใจก็เกิด
  • Yuimaru คือ การรักและใส่ใจตนเอง ตั้งใจรับฟังเสียงภายในของตนเองอย่างถ่องแท้ เมื่อนั้นจะตระหนักได้ว่า ตัวเรามีพลังอำนาจพอที่จะกำหนดชะตาชีวิตตัวเอง
  • Eiyoshoku คือ การดูแลสุขภาพร่างกายตัวเอง เพราะ ร่างกายและจิตใจเชื่อมโยงกัน เมื่อร่างกายแข็งแรง จิตใจก็แข็งแกร่งเช่นกัน
  • Kansha เป็นแนวคิดที่สำคัญที่สุดของคินสึงิ คือ ต้องเรียนรู้ที่จะขอบคุณอย่างจริงใจต่อสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิต ไม่ว่าจะในแง่ดีหรือแง่ร้าย

แม้ร่องรอยความผิดพลาดล้มเหลวไม่จางหาย
แต่รอยร้าวนั้นจะไม่ใช่ความอับอายอีกต่อไป
และมันกลายเป็นประสบการณ์ที่เราภาคภูมิใจ

เหมือนที่ Sundar Pichai (CEO ของ Google) บอกไว้ว่า “Wear your failure as a badge of honor.”

"จงยืดอกและภาคภูมิใจในความล้มเหลวซะ เพราะมันคือ เหรียญตราแห่งความเกียรติยศของคุณ"

ยังไงก็ตาม จิตใจที่ฟื้นฟู เป็นแค่การกลับมาเริ่มต้นใหม่บนเส้นทางสู่ความสำเร็จเท่านั้น

สิ่งที่ต้องทำถัดไป คือต้องสังเกตว่า สาเหตุที่แท้จริงของความผิดพลาดคืออะไร และมีความสามารถใดที่คุณต้องพัฒนาปรับปรุงเพิ่มเติมบ้าง เพราะนั่นต่างหากที่จะทำให้ไปถึงเป้าหมายได้ โดยไม่พลาดเรื่องเดิมๆ ซ้ำๆ อีกต่อไป

จิตใจแตกร้าวแก้ได้ แต่ถ้าแหลกสลายกลายเป็นฝุ่น pm 2.5 อาจแก้ไม่ไหว


การพัฒนาความคิดและจิตใจตัวเอง คือ การนำตัวเอง (Lead Self) เพื่อควบคุมการกระทำของตัวเองให้ถูกต้อง
รายละเอียดหลักสูตร Lead self
คลิก


Content & Infographic: อนิรุทธิ์ ตุลสุข
Sources:
https://www.weforum.org/…/japanese-art-principle-failure-s…/
https://brandinside.asia/how-to-heal-yourself-from-failure…/
https://en.wikipedia.org/wiki/Kintsugi


ด่วน ! เราเพิ่มช่องทางอ่านบทความใหม่แล้ว ที่ Linkedin
https://www.linkedin.com/company/coach-for-goal/…

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ทำไม? เมื่อผู้นำตั้งใจทำดีมากไป ผลที่ได้กลับกลายเป็นร้ายในทันที คุณมักได้ยินคำแนะนำมากมายเกี่ยวกับการเป็นผู้นำที่ดี เช่น ต้องรับฟังให้เยอะพูดให้น้อย ต้องเข้าอกเข้าใจ ต้องพัฒนาเรียนรู้ตลอดเวลา ต้องมีเหตุผล ต้องแสดงความรับผิดชอบและทำให้งานสำเร็จ สิ่งต่างๆเหล่านี้ ล้วนเป็นการกระทำที่ดีทั้งนั้น แต่รู้ไหมว่า จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าคุณทำสิ่งข้างต้นเรื่องใดเรื่องหนึ่งมากเกินไป
ทำไม? เมื่อผู้นำตั้งใจทำดีมากไป ผลที่ได้กลับกลายเป็นร้ายในทันที New

คุณมักได้ยินคำแนะนำมากมายเกี่ยวกับการเป็นผู้นำที่ดี เช่น ต้องรับฟังให้เยอะพูดให้น้อย ต้องเข้าอกเข้าใจ ต้องพัฒนาเรียนรู้ตลอดเวลา ต้องมีเหตุผล ต้องแสดงความรับผิดชอบและทำให้งานสำเร็จ สิ่งต่างๆเหล่านี้ ล้วนเป็นการกระทำที่ดีทั้งนั้น แต่รู้ไหมว่า จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าคุณทำสิ่งข้างต้นเรื่องใดเรื่องหนึ่งมากเกินไป

การสื่อสาร 3 มิติ ที่หัวหน้าต้องรู้ เพื่อให้งานได้ผลลัพธ์ ถ้าพูดว่าการทำงานหลักๆของผู้บริหาร หรือหัวหน้า คือการสื่อสาร ภาพในหัวของหลายคนก็จะมีภาพว่าหัวหน้าต้อง present ได้เก่ง โน้มน้าวหรือ พูดได้รู้เรื่อง ซึ่งก็นับว่า จริง แต่แค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะผู้บริหารมีหน้าที่ต้องบริหารคนให้ทำงานให้บรรลุเป้าหมายให้ได้ ดังนั้นการสื่อสารของหัวหน้าจึงมีหลากหลายมิติ โดยถ้าแยกแบบคร่าวๆ ก็จะมีอยู่ 3 มิติ ดังนี้
การสื่อสาร 3 มิติ ที่หัวหน้าต้องรู้ เพื่อให้งานได้ผลลัพธ์ New

ถ้าพูดว่าการทำงานหลักๆของผู้บริหาร หรือหัวหน้า คือการสื่อสาร ภาพในหัวของหลายคนก็จะมีภาพว่าหัวหน้าต้อง present ได้เก่ง โน้มน้าวหรือ พูดได้รู้เรื่อง ซึ่งก็นับว่า จริง แต่แค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะผู้บริหารมีหน้าที่ต้องบริหารคนให้ทำงานให้บรรลุเป้าหมายให้ได้ ดังนั้นการสื่อสารของหัวหน้าจึงมีหลากหลายมิติ โดยถ้าแยกแบบคร่าวๆ ก็จะมีอยู่ 3 มิติ ดังนี้

2 หัวใจสำคัญ การสื่อสาร ที่เป็นงานสำคัญของหัวหน้า จากที่เคยพูดถึงว่าทักษะสำคัญของหัวหน้าคือการสื่อสาร ซึ่งมีหลากหลายวัตถุประสงค์ ในโพสนี้ ขออธิบายการสื่อสารที่เป็นจุดเริ่มต้นของการทำงาน คือ”การสั่งงาน” ซึ่งดูแล้วเหมือนกับเรื่องง่ายๆ ที่ใครๆก็น่าจะสั่งงานได้ แต่หัวใจสำคัญคือ
2 หัวใจสำคัญ การสื่อสาร ที่เป็นงานสำคัญของหัวหน้า New

จากที่เคยพูดถึงว่าทักษะสำคัญของหัวหน้าคือการสื่อสาร ซึ่งมีหลากหลายวัตถุประสงค์ ในโพสนี้ ขออธิบายการสื่อสารที่เป็นจุดเริ่มต้นของการทำงาน คือ”การสั่งงาน” ซึ่งดูแล้วเหมือนกับเรื่องง่ายๆ ที่ใครๆก็น่าจะสั่งงานได้ แต่หัวใจสำคัญคือ

บทบาทหัวหน้างาน ไม่ได้มีแค่การสั่งแล้วตามจิก หลายคนรู้สึกว่าหัวหน้าไม่เห็นทำงานอะไรเลย ได้แต่สั่งงานแล้วก็ตามงาน แถมหัวหน้าบางคนก็ตามแบบจิกๆ อีกต่างหาก ทำแบบนี้หัวหน้าทำถูกหรือไม่?
ที่นี่เรามาดูหน้าที่หลักๆของหัวหน้าว่าเขาต้องทำอะไรบ้าง
บทบาทหัวหน้างาน ไม่ได้มีแค่การสั่งแล้วตามจิก

หลายคนรู้สึกว่าหัวหน้าไม่เห็นทำงานอะไรเลย ได้แต่สั่งงานแล้วก็ตามงาน แถมหัวหน้าบางคนก็ตามแบบจิกๆ อีกต่างหาก ทำแบบนี้หัวหน้าทำถูกหรือไม่? ที่นี่เรามาดูหน้าที่หลักๆของหัวหน้าว่าเขาต้องทำอะไรบ้าง

Catfish Effect บริหารพนักงานให้แกร่ง จากแรงฮึดเพื่ออยู่รอด Catfish Effect (เอฟเฟกต์ปลาดุก) คือผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการมีคู่แข่งที่มีแข็งแกร่งเข้ามา จนทำให้คู่แข่งที่อ่อนแอ มีการพัฒนาตนเองให้ดีขึ้น
แนวคิดนี้เกิดขึ้นจากอะไร? และนำมาใช้เพื่อกระตุ้นความกระตือรือร้นของพนักงานและเพิ่มประสิทธิภาพของพนักงาน ได้อย่างไร? มารู้กันจาก blog นี้
Catfish Effect บริหารพนักงานให้แกร่ง จากแรงฮึดเพื่ออยู่รอด

Catfish Effect (เอฟเฟกต์ปลาดุก) คือผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการมีคู่แข่งที่มีแข็งแกร่งเข้ามา จนทำให้คู่แข่งที่อ่อนแอ มีการพัฒนาตนเองให้ดีขึ้น แนวคิดนี้เกิดขึ้นจากอะไร? และนำมาใช้เพื่อกระตุ้นความกระตือรือร้นของพนักงานและเพิ่มประสิทธิภาพของพนักงาน ได้อย่างไร? มารู้กันจาก blog นี้

Personal Values ช่วยพัฒนาผู้นำในองค์กรได้อย่างไร? หัวหน้าแต่ละคนบริหารต่างกัน ส่วนหนึ่งเกิดจาก "ค่านิยมส่วนบุคคล" (Personal Values) ซึ่งก็คือ ความเชื่อที่เกิดจากประสบการณ์ ที่หล่อหลอม เรียนรู้ และยึดถือ ความเชื่อนั้นว่าเป็นจริง เป็นสิ่งที่ดีสำหรับชีวิตตัวเอง โดยทั่วไปค่านิยมส่วนบุคคลนั้น มี 2 ระดับ คือ
Personal Values ช่วยพัฒนาผู้นำในองค์กรได้อย่างไร?

หัวหน้าแต่ละคนบริหารต่างกัน ส่วนหนึ่งเกิดจาก "ค่านิยมส่วนบุคคล" (Personal Values) ซึ่งก็คือ ความเชื่อที่เกิดจากประสบการณ์ ที่หล่อหลอม เรียนรู้ และยึดถือ ความเชื่อนั้นว่าเป็นจริง เป็นสิ่งที่ดีสำหรับชีวิตตัวเอง โดยทั่วไปค่านิยมส่วนบุคคลนั้น มี 2 ระดับ คือ