2 หัวใจสำคัญ การสื่อสาร ที่เป็นงานสำคัญของหัวหน้า New

วันที่: 20 พ.ย. 2566 08:45:46     แก้ไข: 23 พ.ย. 2566 15:25:25     เปิดอ่าน: 8,369     Blogs
จากที่เคยพูดถึงว่าทักษะสำคัญของหัวหน้าคือการสื่อสาร ซึ่งมีหลากหลายวัตถุประสงค์ ในโพสนี้ ขออธิบายการสื่อสารที่เป็นจุดเริ่มต้นของการทำงาน คือ”การสั่งงาน” ซึ่งดูแล้วเหมือนกับเรื่องง่ายๆ ที่ใครๆก็น่าจะสั่งงานได้ แต่หัวใจสำคัญคือ

1. ต้องสั่งให้ทีมงานเข้าใจ เห็นภาพเดียวกับตัวคุณให้ได้
2. สั่งไปแล้วทีมงานต้องเต็มใจที่จะทำตามคำสั่งนั้น

ซึ่งการสั่งงานต้องบรรลุหัวใจสำคัญทั้งสองข้อนี้ จะทำให้งานของคุณบรรลุเป้าหมายที่ต้องการ
ขอเริ่มอธิบายจากข้อ 1 ก่อน ว่าการสั่งงานให้เข้าใจตรงกัน แระเด็นนี้ผมขอยกตัวอย่างง่ายๆ
ผมขอให้คุณนึกภาพ คุณกำลังขอให้คนอื่นอธิบายเส้นทางการเดินทางเพื่อให้ไปยังจุดหมายที่เขาเคยไปมาแล้วแต่ให้คุณฟัง แต่จุดหมายนั้นคุณไม่เคยไปมาก่อนเลยนะ คุณจะพบว่า คนจะมีวิธีอธิบายการเดินทางไปจุดหมายนั้นๆแตกต่างกัน บางคนก็บอกแค่คร่าวๆ แทบไม่เห็นภาพตามเลย ในขณะที่บางคนก็จะอธิบายละเอียดยิบจนงง เพราะจับจุดสำคัญไม่ถูก ซึ่งก็ไม่ต่างกับการสั่งงานให้เข้าใจ เพราะคนที่ไม่เคยไป เขาก็จะนึกภาพนั้นไม่ออก ได้แค่จำคำพุดเท่านั้นสั่งคร่าวๆ เขายิ่งนึกไม่ออก สั่ง ละเอียด มันก็ดีแต่มันเยอะไปหมด แล้วเกิดอะไรขึ้น ตามมา พอคุณสั่งเสร็จคำถามที่ตามมาคือ “เข้าใจไหม” “ เข้าใจอย่างไร” ทีมงานคุณก็จะทวนสิ่งที่คุณพูดนั่นแหละให้ฟัง แต่ภาพในหัวก็ยังไม่ได้เกิดขึ้น คุณก็คิดแล้วว่าเขาเข้าใจตรงกันกับคุณ สุดท้ายเมื่อทำงานจริง ก็ออกมาไม่ตรง กลายเป็นความผิดคนทำอีก ไม่ใช่ความผิดคนสั่ง ประเด็นนี้แก้ไขเลยว่าถ้าลูกน้องไม่เคยทำงานนั้นๆให้เข้าใจก่อนเลยว่าเขานึกภาพยังไม่ออก คุณต้องคอยมินิเตอร์เป็นระยะๆและให้โอกาสลุกน้องสอบถามอย่ารำคาญ อย่าคิดว่าก็เราสั่งไปแล้วนิถามอะไรอีก
 

อันนี้แค่ประเด็นแรกนะครับ ยังมีอีกประเด็นคือสั่งงานแล้วทีมงานต้องเต็มใจทำงานตามคำสั่ง ประเด็นนี้ สำคัญมาก เพราะถ้าไม่เต็มใจทีมงานก็จะไม่อยากทำผลก็ออกมาไม่ดีเช่นเดียวกัน ประเด็นนี้ แก้ไขได้โดยเมื่อคุณสั่งงานไปแล้วคุณก็แค่เปลี่ยนโหมดจาก ผู้ส่งเป็นผู้รับ คือสอบถามว่าเขาคิดว่า “ติดขัดหรือมีอุปสรรคตรงไหนจากคำสั่งนี้บ้าง” แล้วคุณก็ค่อยๆรับฟังและแก้ไขความในใจของเขาไปทีละประเด็น อาจเสียเวลาหน่อย แต่ผลลัพธ์ที่ได้คุ้มค่าแน่นอน แล้วเลิกถามคำถามว่า”เข้าใจไหม?”ได้แล้ว เพราะคงไม่มีลูกน้องคนไหนตอบว่าไม่เข้าใจ
หากท่านใดสนใจรายละเอียดของการพัฒนาการสื่อสารของผู้นำ หรือ Leadership Communication สามารถ Download เอกสาร หรือ สามารถขอคำปรึกษาเบื้องต้นได้ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ที่นี่ 
  
        เพิ่มเพื่อน    

บทความโดย

Kom Suwanpimon (คม สุวรรณพิมล)

CEO & Founder / Coach For Goal Group 
 
  • Top Management Executive in Finacial Companies
  • Executive Coach & Business Development Consultant
  • Newspaper Columnnist & Author
     
Interesting Areas:
Business Results Inprovement, Leadership Development, Executive & performance Coaching, People Attitude & Behavior
 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

5 กลยุทธ์ผู้นำที่ทำให้เกิด High Performance Environment การเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วในวันนี้ หัวหน้างานที่ยังคงต้องทำบทบาทในการปรับทีมงานให้พร้อมรับมือการเปลี่ยนแปลงเสมอ เพื่อให้เกิดบรรยากาศแบบ High Performance Environment หรือ ทีมงานมีไฟมีพลังสู้รบกับการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ซึ่ง 5 วิธีที่หัวหน้าสามารถเริ่มทำได้ทันที ได้แก่
5 กลยุทธ์ผู้นำที่ทำให้เกิด High Performance Environment

การเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วในวันนี้ หัวหน้างานที่ยังคงต้องทำบทบาทในการปรับทีมงานให้พร้อมรับมือการเปลี่ยนแปลงเสมอ เพื่อให้เกิดบรรยากาศแบบ High Performance Environment หรือ ทีมงานมีไฟมีพลังสู้รบกับการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ซึ่ง 5 วิธีที่หัวหน้าสามารถเริ่มทำได้ทันที ได้แก่

ทำไม? เมื่อผู้นำตั้งใจทำดีมากไป ผลที่ได้กลับกลายเป็นร้ายในทันที คุณมักได้ยินคำแนะนำมากมายเกี่ยวกับการเป็นผู้นำที่ดี เช่น ต้องรับฟังให้เยอะพูดให้น้อย ต้องเข้าอกเข้าใจ ต้องพัฒนาเรียนรู้ตลอดเวลา ต้องมีเหตุผล ต้องแสดงความรับผิดชอบและทำให้งานสำเร็จ สิ่งต่างๆเหล่านี้ ล้วนเป็นการกระทำที่ดีทั้งนั้น แต่รู้ไหมว่า จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าคุณทำสิ่งข้างต้นเรื่องใดเรื่องหนึ่งมากเกินไป
ทำไม? เมื่อผู้นำตั้งใจทำดีมากไป ผลที่ได้กลับกลายเป็นร้ายในทันที New

คุณมักได้ยินคำแนะนำมากมายเกี่ยวกับการเป็นผู้นำที่ดี เช่น ต้องรับฟังให้เยอะพูดให้น้อย ต้องเข้าอกเข้าใจ ต้องพัฒนาเรียนรู้ตลอดเวลา ต้องมีเหตุผล ต้องแสดงความรับผิดชอบและทำให้งานสำเร็จ สิ่งต่างๆเหล่านี้ ล้วนเป็นการกระทำที่ดีทั้งนั้น แต่รู้ไหมว่า จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าคุณทำสิ่งข้างต้นเรื่องใดเรื่องหนึ่งมากเกินไป

การสื่อสาร 3 มิติ ที่หัวหน้าต้องรู้ เพื่อให้งานได้ผลลัพธ์ ถ้าพูดว่าการทำงานหลักๆของผู้บริหาร หรือหัวหน้า คือการสื่อสาร ภาพในหัวของหลายคนก็จะมีภาพว่าหัวหน้าต้อง present ได้เก่ง โน้มน้าวหรือ พูดได้รู้เรื่อง ซึ่งก็นับว่า จริง แต่แค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะผู้บริหารมีหน้าที่ต้องบริหารคนให้ทำงานให้บรรลุเป้าหมายให้ได้ ดังนั้นการสื่อสารของหัวหน้าจึงมีหลากหลายมิติ โดยถ้าแยกแบบคร่าวๆ ก็จะมีอยู่ 3 มิติ ดังนี้
การสื่อสาร 3 มิติ ที่หัวหน้าต้องรู้ เพื่อให้งานได้ผลลัพธ์ New

ถ้าพูดว่าการทำงานหลักๆของผู้บริหาร หรือหัวหน้า คือการสื่อสาร ภาพในหัวของหลายคนก็จะมีภาพว่าหัวหน้าต้อง present ได้เก่ง โน้มน้าวหรือ พูดได้รู้เรื่อง ซึ่งก็นับว่า จริง แต่แค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะผู้บริหารมีหน้าที่ต้องบริหารคนให้ทำงานให้บรรลุเป้าหมายให้ได้ ดังนั้นการสื่อสารของหัวหน้าจึงมีหลากหลายมิติ โดยถ้าแยกแบบคร่าวๆ ก็จะมีอยู่ 3 มิติ ดังนี้

บทบาทหัวหน้างาน ไม่ได้มีแค่การสั่งแล้วตามจิก หลายคนรู้สึกว่าหัวหน้าไม่เห็นทำงานอะไรเลย ได้แต่สั่งงานแล้วก็ตามงาน แถมหัวหน้าบางคนก็ตามแบบจิกๆ อีกต่างหาก ทำแบบนี้หัวหน้าทำถูกหรือไม่?
ที่นี่เรามาดูหน้าที่หลักๆของหัวหน้าว่าเขาต้องทำอะไรบ้าง
บทบาทหัวหน้างาน ไม่ได้มีแค่การสั่งแล้วตามจิก

หลายคนรู้สึกว่าหัวหน้าไม่เห็นทำงานอะไรเลย ได้แต่สั่งงานแล้วก็ตามงาน แถมหัวหน้าบางคนก็ตามแบบจิกๆ อีกต่างหาก ทำแบบนี้หัวหน้าทำถูกหรือไม่? ที่นี่เรามาดูหน้าที่หลักๆของหัวหน้าว่าเขาต้องทำอะไรบ้าง

Catfish Effect บริหารพนักงานให้แกร่ง จากแรงฮึดเพื่ออยู่รอด Catfish Effect (เอฟเฟกต์ปลาดุก) คือผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการมีคู่แข่งที่มีแข็งแกร่งเข้ามา จนทำให้คู่แข่งที่อ่อนแอ มีการพัฒนาตนเองให้ดีขึ้น
แนวคิดนี้เกิดขึ้นจากอะไร? และนำมาใช้เพื่อกระตุ้นความกระตือรือร้นของพนักงานและเพิ่มประสิทธิภาพของพนักงาน ได้อย่างไร? มารู้กันจาก blog นี้
Catfish Effect บริหารพนักงานให้แกร่ง จากแรงฮึดเพื่ออยู่รอด

Catfish Effect (เอฟเฟกต์ปลาดุก) คือผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการมีคู่แข่งที่มีแข็งแกร่งเข้ามา จนทำให้คู่แข่งที่อ่อนแอ มีการพัฒนาตนเองให้ดีขึ้น แนวคิดนี้เกิดขึ้นจากอะไร? และนำมาใช้เพื่อกระตุ้นความกระตือรือร้นของพนักงานและเพิ่มประสิทธิภาพของพนักงาน ได้อย่างไร? มารู้กันจาก blog นี้

Personal Values ช่วยพัฒนาผู้นำในองค์กรได้อย่างไร? หัวหน้าแต่ละคนบริหารต่างกัน ส่วนหนึ่งเกิดจาก "ค่านิยมส่วนบุคคล" (Personal Values) ซึ่งก็คือ ความเชื่อที่เกิดจากประสบการณ์ ที่หล่อหลอม เรียนรู้ และยึดถือ ความเชื่อนั้นว่าเป็นจริง เป็นสิ่งที่ดีสำหรับชีวิตตัวเอง โดยทั่วไปค่านิยมส่วนบุคคลนั้น มี 2 ระดับ คือ
Personal Values ช่วยพัฒนาผู้นำในองค์กรได้อย่างไร?

หัวหน้าแต่ละคนบริหารต่างกัน ส่วนหนึ่งเกิดจาก "ค่านิยมส่วนบุคคล" (Personal Values) ซึ่งก็คือ ความเชื่อที่เกิดจากประสบการณ์ ที่หล่อหลอม เรียนรู้ และยึดถือ ความเชื่อนั้นว่าเป็นจริง เป็นสิ่งที่ดีสำหรับชีวิตตัวเอง โดยทั่วไปค่านิยมส่วนบุคคลนั้น มี 2 ระดับ คือ