Key Takeaways จาก Leading with Purpose Mini-Workshop

วันที่: 07 ก.ย. 2566 09:21:06     แก้ไข: 07 ก.ย. 2566 14:56:11     เปิดอ่าน: 1,196     Blogs
เรื่องของเจตนารมณ์ทางธุรกิจขององค์กร หรือ Organizational Purpose นั้น เป็นที่สิ่งที่องค์กรในยุคปัจจุบันเริ่มตระหนักถึงความสำคัญอย่างมาก เพราะเป็นสิ่งที่ทำให้องค์กรได้ทบทวนถึงเหตุผลในการคงอยู่ของธุรกิจไม่ว่าจะเป็น คุณค่าที่ส่งมอบ ผลกระทบต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ตลอดจนกระบวนการทั้งหมดขององค์กรเองว่าได้สอดคล้องกับความมุ่งหวังที่แท้จริงมากน้อยเพียงใด

ตัวอย่างคำแถลงถึงเจตนารมณ์ขององค์กร (Organizational Purpose Statement) เช่น 
  • สร้างแรงบันดาลใจให้กับความก้าวหน้าของมนุษย์ผ่านพลังแห่งการสื่อสารและ ความบันเทิง (AT&T) 
  • อาหารที่แท้จริงที่มีความสำคัญต่อช่วงเวลาของชีวิต (Campbell Soup) 
  • เราตอบสนองความท้าทายและสร้างโลกที่ใช้งานได้จริง (GE)

Purpose หรือ เจตนารมณ์ จึงเป็นเหตุผล หรือ วัตถุประสงค์ในการทำธุรกิจขององค์กรที่สร้างความหมายให้แก่การดำเนินงานในทุกส่วน และเป็นเหมือนเข็มทิศในการทำงานของพนักงานในองค์กรด้วย

เช่นเดียวกัน ในเรื่องของการเป็นผู้นำ หลายๆ ครั้ง ผู้นำในระดับรองลงมา โดยเฉพาะผู้บริหารในระดับต้นและระดับกลาง ซึ่งเป็นผู้ที่ต้องรับทิศทางในการทำงานและนำมาบริหารงานและคนต่อนั้น อาจพบความท้าทายอันเกิดจากสถานการณ์ที่ผันผวน และเปลี่ยนแปลงรวดเร็วเกินกว่าที่เคยประสบมา หรือที่เราคุ้นเคยกันดีว่าเป็นโลกยุค VUCA World หรือ BANI World จนในบางครั้งอาจสูญเสียทิศทางในการบริหาร จากการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ทางธุรกิจที่เกิดขึ้นรายเดือน รายสัปดาห์ หรือ กระทั่งรายวัน จนส่งผลให้การบริหารทั้งคนและงานไม่สอดคล้องกับเจตนารมณ์และทิศทางที่องค์กรต้องการ และสะท้อนออกมาในประสิทธิภาพของการทำงานหรือ ความผูกพันของพนักงานที่ลดลง

Mini Workshop ของทาง Coach For Goal ในวันที่  6 กันยายน ที่ผ่านมานี้ โดย อ. คม สุวรรณพิมล CEO บริษัท Coach For Goal จึงเป็นเซสชั่นเล็กๆ ที่ช่วยให้ผู้บริหารด้าน Human Resources Development ได้เห็นแนวทางในการพัฒนากลุ่มผู้บริหารในระดับกลาง เพื่อให้พวกเขาได้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำที่สามารถ Leading with Purpose ที่องค์กรคาดหวังได้อย่างแท้จริง 
 

KEY TAKEAWAYS:

Main Idea: การพัฒนาผู้บริหารให้เป็นผู้นำที่บริหารงานได้เหมาะสมกับ Purpose ขององค์กรมีสองสิ่งที่สำคัญ คือ 

  • ต้องพัฒนาให้ถูกทิศ
  • ต้องพัฒนาให้ถูกวิธี

Key Takeaway 1: การพัฒนาให้ถูกทิศ

1.1 การบริหารด้วย Purpose แตกต่างจาก Goal อย่างไร?
 
PURPOSE GOAL
  • เหตุผล หรือ วัตถุประสงค์ที่สำคัญในการทำบางสิ่งบางอย่าง เน้นที่แรงจูงใจที่อยู่เบื้องหลัง
  • มีความหมายเชื่อมโยง ทางจิตวิทยาและเกี่ยวข้องกับความคิดสร้างสรรค์ 
  • ผลลัพธ์ที่ต้องการให้บรรลุในช่วงเวลาหนึ่งของการกระทำ
  • เชื่อมโยงความหมายทางธุรกิจและการวางแผนดำเนินงาน

1.2 ผู้นำต้อง Leading by Purpose เพราะช่วยให้สามารถกำหนดลำดับสำคัญได้ว่า อะไรเป็นสิ่งที่สำคัญขององค์กร กลยุทธ์หรือโครงการใดที่เหมาะสม ผู้นำต้องเป็นแบบใด และจะต้องสร้างผลงานแบบใด จึงจะสร้างคุณค่าที่เหมาะสม 
1.3 ประเภทของ Purpose ที่ใช้พัฒนาผู้นำประกอบด้วย 
  • What คือ ผลลัพธ์ที่ธุรกิจต้องการ
  • How คือ วิธีการบริหารเพื่อให้ได้ผลลัพธ์
1.4 ประเภทของผู้นำจาก Purpose ทั้งสองด้านจะมีสี่แบบ คือ
  • Achievement Driver
  • Effective Executor
  • Team Developer
  • Environtment Master

Key Takeaway 2: การพัฒนาให้ถูกวิธี

2.1กระบวนการพัฒนาคนต้องสร้างให้เกิดผลลัพธ์จริงๆ โดยสิ่งสำคัญที่จะขับเคลื่อนกระบวนการได้ คือ การสร้าง awareness และการใช้ในงานจริงอย่างต่อเนื่อง
2.2 การสร้าง Performance ของผู้นำให้เกิดขึ้นจริง จำเป็นต้องปรับทั้ง ความสามารถ ทัศนคติ และ ต้องมีแรงสนับสนุนด้านอื่นๆ จากทางองค์กรด้วย
2.3 ทัศนคติของผู้นำ เกิดจาก Mindest  6 ด้าน และ ผู้นำต้องรู้จัก ปรับใช้ให้เหมาะกับสถานการณ์ จึงจะเกิดภาวะผู้นำที่เหมาะสม และคนทำตามด้วยความเต็มใจ
 

Key Takeway 3: ต้องเริ่มที่ Leadership Mindset ก่อน แล้วพัฒนาความสามารถของผู้นำ ตาม purpose ที่ต้องการ

Leadership Mindset นั้นเป็นเหมือนหัวใจของผู้นำ ซึ่งจะทำให้ผู้บริหารมีทัศนคติที่เหมาะสมกับเป้าหมาย และสามารถตอบสนองกับสถานการณ์ต่างๆ ได้เป็นอย่างดี

สำหรับความสามารถและทักษะของผู้นำ หรือ Leadership Capability จำเป็นเหมาะสมกับ Purpose ที่องค์กรต้องการ เพื่อให้สามารถกำหมดทิศทาง บริหาร แก้ปัญหา หรือ ตัดสินใจที่เกี่ยวข้องกับงานได้อย่างเหมาะสม โดยความสามารถของผู้นำจะมี Framework ที่แตกต่างกัน ได้แก่

  • Achievement Driver สร้างผู้นำที่มีความสามารถทางความคิด ได้แก่ Strategic Thinking, Critical Thinking และ Analytical Thinking เพื่อให้สามารถคิดกลยุทธ์ในการทำงาน และบริหารจัดการทรัพยากรที่จำเป็นได้ตามกลยุทธ์ ตลอดจนตรวจสอบ และปรับเปลี่ยนการทำงานด้วยการสร้างแรงบันดาลใจ สร้างแรงกระตุ้น หรือ ปรับแก้กลยุทธ์อย่างเหมาะสม

  • Effective Executor สร้างผู้นำให้มีความสามารถในการคิดอย่างเป็นระบบ (System Thinking) โดยดูผลกระทบจากกระบวนการทั้งระบบได้ ตั้งแต่การแปลงกลยุทธ์มาเป็นแผนการดำเนินงานที่ปฏิบัติได้จริง บริหารจัดการทีมตามหน้าที่อย่างเหมาะสม สื่อสารสั่งการได้ชัดเจน ตลอดจนควบคุมกระบวนการทำงานทั้งหมด เพื่อให้งานบรรลุเป้าหมาย

  • Team Developer สร้างผู้นำให้มีส่วนร่วมในการพัฒนาสมาชิกทีมงานผ่านการทำงานจริงในแต่ละวัน โดยเน้นเพิ่มความสามารถในการวิเคราะห์ช่องว่างความสามารถที่จำเป็นตาม กลยุทธ์ในงานที่กำหนดไว้ และ ทักษะด้าน Feedback, Mentoring และ Coaching เพื่อพัฒนาทีมงานได้ทันที

  • Environment Master สร้างผู้นำที่สามารถวิเคราะห์ปัจจัยที่ส่งเสริมให้เกิดสภาพแวดล้อมในการทำงานที่เหมาะสม ซึ่งมีองค์ประกอบสี่ด้าน และเสริมความสามารถในการบริหารจัดการปัจจัยทั้งหมดนี้ ผ่านโมเดลการสื่อสารที่เฉพาะเจาะจง เพื่อให้ทีมงานมีบรรยากาศที่มีไฟในการทำงาน

ทั้งหมดนี้ คือ เนื้อหาสาระของ Mini-Workshop: Leading with Purpose ที่ผ่านมาของทางเราครับ

หากท่านใดสนใจรายละเอียดของการพัฒนาผู้นำ Leading with Purpose นี้ สามารถ Download เอกสาร หรือ สามารถขอคำปรึกษาเบื้องต้นได้ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ที่นี่ 
  
        เพิ่มเพื่อน    



 
 
 
 
 
 

Workshop บรรยายโดย

Kom Suwanpimon (คม สุวรรณพิมล)
CEO & Founder / Coach For Goal Group 
 
  • Top Management Executive in Finacial Companies
  • Executive Coach & Business Development Consultant
  • Newspaper Columnnist & Author
     
Interesting Areas:
Business Results Inprovement, Leadership Development, Executive & performance Coaching, People Attitude & Behavior
 


Key Takeaways โดย

Aniruth Tulsuk (อนิรุทธิ์ ตุลสุข)
Sr. Consultant & Facilitator-CFG 
 
M.A. Industial and Organizaional Psychology, Thammasat University
Former Learning & Development Manager, FMCG/Property
Interesting Areas:
Startup Business, Leadership Development, Behavioral Change,Trait & Personality, Visual Thinking
 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

5 กลยุทธ์ผู้นำที่ทำให้เกิด High Performance Environment การเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วในวันนี้ หัวหน้างานที่ยังคงต้องทำบทบาทในการปรับทีมงานให้พร้อมรับมือการเปลี่ยนแปลงเสมอ เพื่อให้เกิดบรรยากาศแบบ High Performance Environment หรือ ทีมงานมีไฟมีพลังสู้รบกับการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ซึ่ง 5 วิธีที่หัวหน้าสามารถเริ่มทำได้ทันที ได้แก่
5 กลยุทธ์ผู้นำที่ทำให้เกิด High Performance Environment

การเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วในวันนี้ หัวหน้างานที่ยังคงต้องทำบทบาทในการปรับทีมงานให้พร้อมรับมือการเปลี่ยนแปลงเสมอ เพื่อให้เกิดบรรยากาศแบบ High Performance Environment หรือ ทีมงานมีไฟมีพลังสู้รบกับการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ซึ่ง 5 วิธีที่หัวหน้าสามารถเริ่มทำได้ทันที ได้แก่

ทำไม? เมื่อผู้นำตั้งใจทำดีมากไป ผลที่ได้กลับกลายเป็นร้ายในทันที คุณมักได้ยินคำแนะนำมากมายเกี่ยวกับการเป็นผู้นำที่ดี เช่น ต้องรับฟังให้เยอะพูดให้น้อย ต้องเข้าอกเข้าใจ ต้องพัฒนาเรียนรู้ตลอดเวลา ต้องมีเหตุผล ต้องแสดงความรับผิดชอบและทำให้งานสำเร็จ สิ่งต่างๆเหล่านี้ ล้วนเป็นการกระทำที่ดีทั้งนั้น แต่รู้ไหมว่า จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าคุณทำสิ่งข้างต้นเรื่องใดเรื่องหนึ่งมากเกินไป
ทำไม? เมื่อผู้นำตั้งใจทำดีมากไป ผลที่ได้กลับกลายเป็นร้ายในทันที New

คุณมักได้ยินคำแนะนำมากมายเกี่ยวกับการเป็นผู้นำที่ดี เช่น ต้องรับฟังให้เยอะพูดให้น้อย ต้องเข้าอกเข้าใจ ต้องพัฒนาเรียนรู้ตลอดเวลา ต้องมีเหตุผล ต้องแสดงความรับผิดชอบและทำให้งานสำเร็จ สิ่งต่างๆเหล่านี้ ล้วนเป็นการกระทำที่ดีทั้งนั้น แต่รู้ไหมว่า จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าคุณทำสิ่งข้างต้นเรื่องใดเรื่องหนึ่งมากเกินไป

การสื่อสาร 3 มิติ ที่หัวหน้าต้องรู้ เพื่อให้งานได้ผลลัพธ์ ถ้าพูดว่าการทำงานหลักๆของผู้บริหาร หรือหัวหน้า คือการสื่อสาร ภาพในหัวของหลายคนก็จะมีภาพว่าหัวหน้าต้อง present ได้เก่ง โน้มน้าวหรือ พูดได้รู้เรื่อง ซึ่งก็นับว่า จริง แต่แค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะผู้บริหารมีหน้าที่ต้องบริหารคนให้ทำงานให้บรรลุเป้าหมายให้ได้ ดังนั้นการสื่อสารของหัวหน้าจึงมีหลากหลายมิติ โดยถ้าแยกแบบคร่าวๆ ก็จะมีอยู่ 3 มิติ ดังนี้
การสื่อสาร 3 มิติ ที่หัวหน้าต้องรู้ เพื่อให้งานได้ผลลัพธ์ New

ถ้าพูดว่าการทำงานหลักๆของผู้บริหาร หรือหัวหน้า คือการสื่อสาร ภาพในหัวของหลายคนก็จะมีภาพว่าหัวหน้าต้อง present ได้เก่ง โน้มน้าวหรือ พูดได้รู้เรื่อง ซึ่งก็นับว่า จริง แต่แค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะผู้บริหารมีหน้าที่ต้องบริหารคนให้ทำงานให้บรรลุเป้าหมายให้ได้ ดังนั้นการสื่อสารของหัวหน้าจึงมีหลากหลายมิติ โดยถ้าแยกแบบคร่าวๆ ก็จะมีอยู่ 3 มิติ ดังนี้

2 หัวใจสำคัญ การสื่อสาร ที่เป็นงานสำคัญของหัวหน้า จากที่เคยพูดถึงว่าทักษะสำคัญของหัวหน้าคือการสื่อสาร ซึ่งมีหลากหลายวัตถุประสงค์ ในโพสนี้ ขออธิบายการสื่อสารที่เป็นจุดเริ่มต้นของการทำงาน คือ”การสั่งงาน” ซึ่งดูแล้วเหมือนกับเรื่องง่ายๆ ที่ใครๆก็น่าจะสั่งงานได้ แต่หัวใจสำคัญคือ
2 หัวใจสำคัญ การสื่อสาร ที่เป็นงานสำคัญของหัวหน้า New

จากที่เคยพูดถึงว่าทักษะสำคัญของหัวหน้าคือการสื่อสาร ซึ่งมีหลากหลายวัตถุประสงค์ ในโพสนี้ ขออธิบายการสื่อสารที่เป็นจุดเริ่มต้นของการทำงาน คือ”การสั่งงาน” ซึ่งดูแล้วเหมือนกับเรื่องง่ายๆ ที่ใครๆก็น่าจะสั่งงานได้ แต่หัวใจสำคัญคือ

บทบาทหัวหน้างาน ไม่ได้มีแค่การสั่งแล้วตามจิก หลายคนรู้สึกว่าหัวหน้าไม่เห็นทำงานอะไรเลย ได้แต่สั่งงานแล้วก็ตามงาน แถมหัวหน้าบางคนก็ตามแบบจิกๆ อีกต่างหาก ทำแบบนี้หัวหน้าทำถูกหรือไม่?
ที่นี่เรามาดูหน้าที่หลักๆของหัวหน้าว่าเขาต้องทำอะไรบ้าง
บทบาทหัวหน้างาน ไม่ได้มีแค่การสั่งแล้วตามจิก

หลายคนรู้สึกว่าหัวหน้าไม่เห็นทำงานอะไรเลย ได้แต่สั่งงานแล้วก็ตามงาน แถมหัวหน้าบางคนก็ตามแบบจิกๆ อีกต่างหาก ทำแบบนี้หัวหน้าทำถูกหรือไม่? ที่นี่เรามาดูหน้าที่หลักๆของหัวหน้าว่าเขาต้องทำอะไรบ้าง

Catfish Effect บริหารพนักงานให้แกร่ง จากแรงฮึดเพื่ออยู่รอด Catfish Effect (เอฟเฟกต์ปลาดุก) คือผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการมีคู่แข่งที่มีแข็งแกร่งเข้ามา จนทำให้คู่แข่งที่อ่อนแอ มีการพัฒนาตนเองให้ดีขึ้น
แนวคิดนี้เกิดขึ้นจากอะไร? และนำมาใช้เพื่อกระตุ้นความกระตือรือร้นของพนักงานและเพิ่มประสิทธิภาพของพนักงาน ได้อย่างไร? มารู้กันจาก blog นี้
Catfish Effect บริหารพนักงานให้แกร่ง จากแรงฮึดเพื่ออยู่รอด

Catfish Effect (เอฟเฟกต์ปลาดุก) คือผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการมีคู่แข่งที่มีแข็งแกร่งเข้ามา จนทำให้คู่แข่งที่อ่อนแอ มีการพัฒนาตนเองให้ดีขึ้น แนวคิดนี้เกิดขึ้นจากอะไร? และนำมาใช้เพื่อกระตุ้นความกระตือรือร้นของพนักงานและเพิ่มประสิทธิภาพของพนักงาน ได้อย่างไร? มารู้กันจาก blog นี้