ผู้นำตามแนวคิด Leading With Purpose (ตอนที่ 3) : Team Developer New

วันที่: 16 ต.ค. 2566 13:55:02     แก้ไข: 18 ต.ค. 2566 08:30:43     เปิดอ่าน: 1,096     Blogs
ด้วยแนวคิด Leading With Purpose  ที่แบ่งหัวหน้าออกเป็นสี่ประเภท เพื่อบริหารให้บรรลุ Purpose ขององค์กร แล้วหนึ่งใน สี่ประเภท คือผู้บริหารแบบ Team Developer ผู้บริหารแบบนี้ จะบริหารให้บรรลุ Purpose ขององค์กร ในด้าน Growth และ Engagement แต่ก่อนที่จะอธิบายให้ทราบถึงวิธีการบริหารของ Team Developer ก็ควรจะเข้าใจความเกี่ยวพันของ Purpose ด้าน Growth และ Engagement ก่อนดังนี้
 

เป้าประสงค์ของผู้นำแบบ Team Developer

  • Growth คือ เป้าประสงค์ขององค์กร ที่ต้องการให้องค์กรมีการเติบโตจากที่เป็นอยู่
  • Engagement คือเป้าประสงค์ในการบริหารงานที่ต้องการให้ พนักงานในองค์กรมีความผูกพันธ์กับองค์กร จนนำมาซึ่งการใช้ศักยภาพที่ตนมี มาทำงานเพื่อให้องค์กรเกิดการเติบโตตามที่ต้องการ

ดังนั้นวิธีการบริหารของ Team Developer คือการสร้างให้ทีมงานมีศักยภาพที่เก่งขึ้น เพราะโดยจิตวิทยาทั่วไปแล้วถ้าทำงานในองค์กรใดก็ตามที่ทำให้ตนเองเก่งขึ้น เขาก็จะเกิดความผูกพันที่ดีกับองค์กรนั้นและใช้ศักยภาพที่มีเพื่อทำงานให้กับองค์กรนั้นอย่างเต็มที่

วิธีการบริหารแบบ Team Developer

เนื่องจาก Team Developer ก็นับได้ว่าเป็นผู้บริหารท่านหนึ่ง ดังนั้นวิธีการพัฒนาคนจึงไม่ใช่การทำตัวเป็น Trainer แต่ต้องพัฒนาคน ในระหว่างการทำงานไปควบคู่กัน ดังนั้นสิ่งแรกที่เขาต้องทำคือ รู้จักกลยุทธ์องค์กร และสามารถแปลงกลยุทธ์องค์กรนั้น เป็นความสามารถที่ทีมงานต้องมีเพื่อทำให้กลยุทธ์องค์กรสำเร็จ เมื่อแปลงเป็นประเด็นที่ต้องพัฒนาได้แล้ว เขาจะมาวิเคราะห์ว่าทีมงานคนไหนควรพัฒนาเรื่องอะไรตามบทบาทหน้าที่ของทีมงานแต่ละคน แล้วค่อยๆพัฒนาทีมงานนั้นๆ ไปพร้อมกับการมอบหมายหน้าที่ตามกลยุทธ์องค์กรที่ต้องทำให้สำเร็จ ส่วนการพัฒนานั้นจะใช้เครื่องมือในการบริหารมาใช้ในการพัฒนาทีมงานคือใช้ Feedback Coaching และ Mentoring ตามแต่ประเด็นที่ต้องพัฒนา ซึ่งการทำเช่นนี้ด้วยวิธีการที่ถูกต้องทีมงานก็จะไว้วางใจหัวหน้าเพิ่มขึ้น และตนเองก็เก่งขึ้นจนเกิด Engagement ซึ่งสุดท้ายแล้วทีมงานก็จะใช้ศักยภาพที่มีเพื่อทำงานให้บรรลุกลยุทธ์ขององค์กรจนองค์กรเติบโตอย่างที่ต้องการ
 

สรุป

Team Developer จะมีจุดเด่นในการวิเคราะห์กลยุทธ์องค์กรเพื่อเปลี่ยนเป็นความสามารถของทีมงานที่ต้องพัฒนา และสามารถประยุทธ์ใช้เครื่องมือในการบริหารเพื่อพัฒนาคนจนบรรลุเป้าประสงค์องค์กรได้สำเร็จ
หากท่านใดสนใจรายละเอียดของการพัฒนาผู้นำ Leading with Purpose นี้ สามารถ Download เอกสาร หรือ สามารถขอคำปรึกษาเบื้องต้นได้ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ที่นี่ 
  
        เพิ่มเพื่อน    
 

บทความโดย

Kom Suwanpimon (คม สุวรรณพิมล)
CEO & Founder / Coach For Goal Group 
 
  • Top Management Executive in Finacial Companies
  • Executive Coach & Business Development Consultant
  • Newspaper Columnnist & Author
     
Interesting Areas:
Business Results Inprovement, Leadership Development, Executive & performance Coaching, People Attitude & Behavior
 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

5 กลยุทธ์ผู้นำที่ทำให้เกิด High Performance Environment การเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วในวันนี้ หัวหน้างานที่ยังคงต้องทำบทบาทในการปรับทีมงานให้พร้อมรับมือการเปลี่ยนแปลงเสมอ เพื่อให้เกิดบรรยากาศแบบ High Performance Environment หรือ ทีมงานมีไฟมีพลังสู้รบกับการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ซึ่ง 5 วิธีที่หัวหน้าสามารถเริ่มทำได้ทันที ได้แก่
5 กลยุทธ์ผู้นำที่ทำให้เกิด High Performance Environment

การเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วในวันนี้ หัวหน้างานที่ยังคงต้องทำบทบาทในการปรับทีมงานให้พร้อมรับมือการเปลี่ยนแปลงเสมอ เพื่อให้เกิดบรรยากาศแบบ High Performance Environment หรือ ทีมงานมีไฟมีพลังสู้รบกับการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ซึ่ง 5 วิธีที่หัวหน้าสามารถเริ่มทำได้ทันที ได้แก่

ทำไม? เมื่อผู้นำตั้งใจทำดีมากไป ผลที่ได้กลับกลายเป็นร้ายในทันที คุณมักได้ยินคำแนะนำมากมายเกี่ยวกับการเป็นผู้นำที่ดี เช่น ต้องรับฟังให้เยอะพูดให้น้อย ต้องเข้าอกเข้าใจ ต้องพัฒนาเรียนรู้ตลอดเวลา ต้องมีเหตุผล ต้องแสดงความรับผิดชอบและทำให้งานสำเร็จ สิ่งต่างๆเหล่านี้ ล้วนเป็นการกระทำที่ดีทั้งนั้น แต่รู้ไหมว่า จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าคุณทำสิ่งข้างต้นเรื่องใดเรื่องหนึ่งมากเกินไป
ทำไม? เมื่อผู้นำตั้งใจทำดีมากไป ผลที่ได้กลับกลายเป็นร้ายในทันที New

คุณมักได้ยินคำแนะนำมากมายเกี่ยวกับการเป็นผู้นำที่ดี เช่น ต้องรับฟังให้เยอะพูดให้น้อย ต้องเข้าอกเข้าใจ ต้องพัฒนาเรียนรู้ตลอดเวลา ต้องมีเหตุผล ต้องแสดงความรับผิดชอบและทำให้งานสำเร็จ สิ่งต่างๆเหล่านี้ ล้วนเป็นการกระทำที่ดีทั้งนั้น แต่รู้ไหมว่า จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าคุณทำสิ่งข้างต้นเรื่องใดเรื่องหนึ่งมากเกินไป

การสื่อสาร 3 มิติ ที่หัวหน้าต้องรู้ เพื่อให้งานได้ผลลัพธ์ ถ้าพูดว่าการทำงานหลักๆของผู้บริหาร หรือหัวหน้า คือการสื่อสาร ภาพในหัวของหลายคนก็จะมีภาพว่าหัวหน้าต้อง present ได้เก่ง โน้มน้าวหรือ พูดได้รู้เรื่อง ซึ่งก็นับว่า จริง แต่แค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะผู้บริหารมีหน้าที่ต้องบริหารคนให้ทำงานให้บรรลุเป้าหมายให้ได้ ดังนั้นการสื่อสารของหัวหน้าจึงมีหลากหลายมิติ โดยถ้าแยกแบบคร่าวๆ ก็จะมีอยู่ 3 มิติ ดังนี้
การสื่อสาร 3 มิติ ที่หัวหน้าต้องรู้ เพื่อให้งานได้ผลลัพธ์ New

ถ้าพูดว่าการทำงานหลักๆของผู้บริหาร หรือหัวหน้า คือการสื่อสาร ภาพในหัวของหลายคนก็จะมีภาพว่าหัวหน้าต้อง present ได้เก่ง โน้มน้าวหรือ พูดได้รู้เรื่อง ซึ่งก็นับว่า จริง แต่แค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะผู้บริหารมีหน้าที่ต้องบริหารคนให้ทำงานให้บรรลุเป้าหมายให้ได้ ดังนั้นการสื่อสารของหัวหน้าจึงมีหลากหลายมิติ โดยถ้าแยกแบบคร่าวๆ ก็จะมีอยู่ 3 มิติ ดังนี้

2 หัวใจสำคัญ การสื่อสาร ที่เป็นงานสำคัญของหัวหน้า จากที่เคยพูดถึงว่าทักษะสำคัญของหัวหน้าคือการสื่อสาร ซึ่งมีหลากหลายวัตถุประสงค์ ในโพสนี้ ขออธิบายการสื่อสารที่เป็นจุดเริ่มต้นของการทำงาน คือ”การสั่งงาน” ซึ่งดูแล้วเหมือนกับเรื่องง่ายๆ ที่ใครๆก็น่าจะสั่งงานได้ แต่หัวใจสำคัญคือ
2 หัวใจสำคัญ การสื่อสาร ที่เป็นงานสำคัญของหัวหน้า New

จากที่เคยพูดถึงว่าทักษะสำคัญของหัวหน้าคือการสื่อสาร ซึ่งมีหลากหลายวัตถุประสงค์ ในโพสนี้ ขออธิบายการสื่อสารที่เป็นจุดเริ่มต้นของการทำงาน คือ”การสั่งงาน” ซึ่งดูแล้วเหมือนกับเรื่องง่ายๆ ที่ใครๆก็น่าจะสั่งงานได้ แต่หัวใจสำคัญคือ

บทบาทหัวหน้างาน ไม่ได้มีแค่การสั่งแล้วตามจิก หลายคนรู้สึกว่าหัวหน้าไม่เห็นทำงานอะไรเลย ได้แต่สั่งงานแล้วก็ตามงาน แถมหัวหน้าบางคนก็ตามแบบจิกๆ อีกต่างหาก ทำแบบนี้หัวหน้าทำถูกหรือไม่?
ที่นี่เรามาดูหน้าที่หลักๆของหัวหน้าว่าเขาต้องทำอะไรบ้าง
บทบาทหัวหน้างาน ไม่ได้มีแค่การสั่งแล้วตามจิก

หลายคนรู้สึกว่าหัวหน้าไม่เห็นทำงานอะไรเลย ได้แต่สั่งงานแล้วก็ตามงาน แถมหัวหน้าบางคนก็ตามแบบจิกๆ อีกต่างหาก ทำแบบนี้หัวหน้าทำถูกหรือไม่? ที่นี่เรามาดูหน้าที่หลักๆของหัวหน้าว่าเขาต้องทำอะไรบ้าง

Catfish Effect บริหารพนักงานให้แกร่ง จากแรงฮึดเพื่ออยู่รอด Catfish Effect (เอฟเฟกต์ปลาดุก) คือผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการมีคู่แข่งที่มีแข็งแกร่งเข้ามา จนทำให้คู่แข่งที่อ่อนแอ มีการพัฒนาตนเองให้ดีขึ้น
แนวคิดนี้เกิดขึ้นจากอะไร? และนำมาใช้เพื่อกระตุ้นความกระตือรือร้นของพนักงานและเพิ่มประสิทธิภาพของพนักงาน ได้อย่างไร? มารู้กันจาก blog นี้
Catfish Effect บริหารพนักงานให้แกร่ง จากแรงฮึดเพื่ออยู่รอด

Catfish Effect (เอฟเฟกต์ปลาดุก) คือผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการมีคู่แข่งที่มีแข็งแกร่งเข้ามา จนทำให้คู่แข่งที่อ่อนแอ มีการพัฒนาตนเองให้ดีขึ้น แนวคิดนี้เกิดขึ้นจากอะไร? และนำมาใช้เพื่อกระตุ้นความกระตือรือร้นของพนักงานและเพิ่มประสิทธิภาพของพนักงาน ได้อย่างไร? มารู้กันจาก blog นี้