6 ปัจจัยที่ทำให้ส่งเสริมบรรยากาศการทำงาน

วันที่: 04 เม.ย. 2566 13:31:55     แก้ไข: 27 ต.ค. 2566 07:56:15     เปิดอ่าน: 10,801     Blogs
High Performance Environment คือ บรรยากาศการทำงานที่พึงประสงค์ ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลต่อแรงจูงใจในการทำงานของพนักงานอย่างมากครับ เพราะจะส่งผลต่อความรู้สึก ทัศนคติ และพฤติกรรมในการทำงานของพนักงาน

เมื่อพูดถึงปัจจัยที่มีผลต่อบรรยากาศนั้น ทางทีมงานของ McClelland ได้นำงานของ Geoge Litwin และ Richard Stringer มาเรียบเรียงใหม่ ให้มีความกระชับยิ่งขี้น จาก 9 ตัว เหลือ 6 ตัวที่เห็นได้ชัดๆ คือ
  1. Flexibility ความยืดหยุ่นคล่องตัว ซึ่งหมายถึง ความมีอิสระในการทำงานการคิดสิ่งใหม่ๆ ไม่มีกฎหยุมหยิม
  2. Responsibility รู้ว่าหน้าที่ความรับผิดชอบของตนเองเหมาะสม
  3. Standards ขั้นตอนและมาตรฐานต่างๆ ที่ถูกกำหนดไว้เหมาะสม
  4. Rewards ระบบการให้รางวัลในองค์กร ไม่ว่าจะเป็นผลตอบแทน หรือ การให้ feedback ต่างๆ ว่ามีความแม่นยำ ยุติธรรม หรือ เหมาะสม หรือไม่
  5. Clarity หรือ ความชัดเจนในเป้าหมายและกระบวนการ จนสามารถทำงานให้บรรลุได้
  6. Commitment หรือ ความผูกพันของพนักงานที่มีต่อวัตถุประสงค์องค์กร
จากทั้งหมดนี้ เราลองจินตนาการดูได้ครับว่า ถ้าพนักงานรู้สึกว่าบรรยากาศองค์กรแย่และมีทัศนคติทางลบต่อปัจจัยข้างต้นแต่ละตัวละ
พวกเขาจะทำงานอย่างไร? และจะเกิดผลอย่างไรกับองค์กรบ้าง?

ในทางตรงกันข้าม หากพนักงานรู้สึกดีต่อองค์กร ก็จะมีไฟในการทำงานและมีแนวโน้มว่าจะทำผลงานออกมาได้ดี จริงไหมครับ?

แล้วบรรยากาศในการทำงานที่ดี ทำให้พนักงานมีไฟ จะเกิดขึ้นได้อย่างไร คงทายไม่น่ายาก เพราะคำตอบก็อย่างที่เราทราบๆ กันดีว่า หัวหน้านั่นแหละครับที่เป็นตัวแปรสำคัญ

ทีมงานของ McClelland เอง ก็พบว่ารูปแบบของผู้นำที่ต่างกัน จะส่งผลกระทบต่อปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ด้วย ไม่ว่าจะเป็น ผู้นำแบบออกคำสั่ง แบบใช้อำนาจ แบบส่งเสริมการร่วมมือ แบบประชาธิปไตย ใช้ตัวเองเป็นมาตรฐาน หรือ แม้แต่แบบโค้ช ซึ่งผลกระทบนี้ ก็จะมีความแตกต่างกันไปตามปัจจัย

แต่ยังไงก็ตาม บทสรุปของงานวิจัยนี้ อยู่ที่ว่า การที่จะทำให้บรรยากาศขององค์กรให้ออกมาเป็นบวกนั้น ผู้นำจำเป็นต้องใช้รูปแบบผู้นำต่างๆ นี้ให้เหมาะสม และผสมผสานกันไป ว่าง่ายๆ ก็เพื่อให้เกิดความสมดุลในการบริหารและส่งผลต่อปัจจัยที่ว่ามาข้างต้น จนทำให้เกิดบรรยากาศการทำงานที่ดีนั้นเองครับ

ผู้นำที่พัฒนาทักษะ และ รูปแบบการเป็นผู้นำได้หลากหลาย จึงมีประโยชน์ต่อทีมงาน และองค์กรมากกว่า ผู้นำที่ทำได้ท่าเดียวในทุกสถานการณ์ ด้วยเหตุนี้นั่นเองครับ

บทความอื่นที่เกี่ยวข้อง

หากท่านใดสนใจรายละเอียดของการพัฒนาผู้นำที่จะสร้างบรรยากาศการทำงานแบบ High Performance Environment สามารถ Download เอกสาร หรือ สามารถขอคำปรึกษาเบื้องต้นได้ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ที่นี่ 
  
        เพิ่มเพื่อน    

บทความโดย

Aniruth Tulsuk (อนิรุทธิ์ ตุลสุข)
Sr. Consultant & Facilitator-CFG 
 
M.A. Industial and Organizaional Psychology, Thammasat University
Former Learning & Development Manager, FMCG/Property
Interesting Areas:
Startup Business, Leadership Development, Behavioral Change,Trait & Personality, Visual Thinking
 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

5 กลยุทธ์ผู้นำที่ทำให้เกิด High Performance Environment การเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วในวันนี้ หัวหน้างานที่ยังคงต้องทำบทบาทในการปรับทีมงานให้พร้อมรับมือการเปลี่ยนแปลงเสมอ เพื่อให้เกิดบรรยากาศแบบ High Performance Environment หรือ ทีมงานมีไฟมีพลังสู้รบกับการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ซึ่ง 5 วิธีที่หัวหน้าสามารถเริ่มทำได้ทันที ได้แก่
5 กลยุทธ์ผู้นำที่ทำให้เกิด High Performance Environment

การเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วในวันนี้ หัวหน้างานที่ยังคงต้องทำบทบาทในการปรับทีมงานให้พร้อมรับมือการเปลี่ยนแปลงเสมอ เพื่อให้เกิดบรรยากาศแบบ High Performance Environment หรือ ทีมงานมีไฟมีพลังสู้รบกับการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ซึ่ง 5 วิธีที่หัวหน้าสามารถเริ่มทำได้ทันที ได้แก่

ทำไม? เมื่อผู้นำตั้งใจทำดีมากไป ผลที่ได้กลับกลายเป็นร้ายในทันที คุณมักได้ยินคำแนะนำมากมายเกี่ยวกับการเป็นผู้นำที่ดี เช่น ต้องรับฟังให้เยอะพูดให้น้อย ต้องเข้าอกเข้าใจ ต้องพัฒนาเรียนรู้ตลอดเวลา ต้องมีเหตุผล ต้องแสดงความรับผิดชอบและทำให้งานสำเร็จ สิ่งต่างๆเหล่านี้ ล้วนเป็นการกระทำที่ดีทั้งนั้น แต่รู้ไหมว่า จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าคุณทำสิ่งข้างต้นเรื่องใดเรื่องหนึ่งมากเกินไป
ทำไม? เมื่อผู้นำตั้งใจทำดีมากไป ผลที่ได้กลับกลายเป็นร้ายในทันที New

คุณมักได้ยินคำแนะนำมากมายเกี่ยวกับการเป็นผู้นำที่ดี เช่น ต้องรับฟังให้เยอะพูดให้น้อย ต้องเข้าอกเข้าใจ ต้องพัฒนาเรียนรู้ตลอดเวลา ต้องมีเหตุผล ต้องแสดงความรับผิดชอบและทำให้งานสำเร็จ สิ่งต่างๆเหล่านี้ ล้วนเป็นการกระทำที่ดีทั้งนั้น แต่รู้ไหมว่า จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าคุณทำสิ่งข้างต้นเรื่องใดเรื่องหนึ่งมากเกินไป

การสื่อสาร 3 มิติ ที่หัวหน้าต้องรู้ เพื่อให้งานได้ผลลัพธ์ ถ้าพูดว่าการทำงานหลักๆของผู้บริหาร หรือหัวหน้า คือการสื่อสาร ภาพในหัวของหลายคนก็จะมีภาพว่าหัวหน้าต้อง present ได้เก่ง โน้มน้าวหรือ พูดได้รู้เรื่อง ซึ่งก็นับว่า จริง แต่แค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะผู้บริหารมีหน้าที่ต้องบริหารคนให้ทำงานให้บรรลุเป้าหมายให้ได้ ดังนั้นการสื่อสารของหัวหน้าจึงมีหลากหลายมิติ โดยถ้าแยกแบบคร่าวๆ ก็จะมีอยู่ 3 มิติ ดังนี้
การสื่อสาร 3 มิติ ที่หัวหน้าต้องรู้ เพื่อให้งานได้ผลลัพธ์ New

ถ้าพูดว่าการทำงานหลักๆของผู้บริหาร หรือหัวหน้า คือการสื่อสาร ภาพในหัวของหลายคนก็จะมีภาพว่าหัวหน้าต้อง present ได้เก่ง โน้มน้าวหรือ พูดได้รู้เรื่อง ซึ่งก็นับว่า จริง แต่แค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะผู้บริหารมีหน้าที่ต้องบริหารคนให้ทำงานให้บรรลุเป้าหมายให้ได้ ดังนั้นการสื่อสารของหัวหน้าจึงมีหลากหลายมิติ โดยถ้าแยกแบบคร่าวๆ ก็จะมีอยู่ 3 มิติ ดังนี้

2 หัวใจสำคัญ การสื่อสาร ที่เป็นงานสำคัญของหัวหน้า จากที่เคยพูดถึงว่าทักษะสำคัญของหัวหน้าคือการสื่อสาร ซึ่งมีหลากหลายวัตถุประสงค์ ในโพสนี้ ขออธิบายการสื่อสารที่เป็นจุดเริ่มต้นของการทำงาน คือ”การสั่งงาน” ซึ่งดูแล้วเหมือนกับเรื่องง่ายๆ ที่ใครๆก็น่าจะสั่งงานได้ แต่หัวใจสำคัญคือ
2 หัวใจสำคัญ การสื่อสาร ที่เป็นงานสำคัญของหัวหน้า New

จากที่เคยพูดถึงว่าทักษะสำคัญของหัวหน้าคือการสื่อสาร ซึ่งมีหลากหลายวัตถุประสงค์ ในโพสนี้ ขออธิบายการสื่อสารที่เป็นจุดเริ่มต้นของการทำงาน คือ”การสั่งงาน” ซึ่งดูแล้วเหมือนกับเรื่องง่ายๆ ที่ใครๆก็น่าจะสั่งงานได้ แต่หัวใจสำคัญคือ

บทบาทหัวหน้างาน ไม่ได้มีแค่การสั่งแล้วตามจิก หลายคนรู้สึกว่าหัวหน้าไม่เห็นทำงานอะไรเลย ได้แต่สั่งงานแล้วก็ตามงาน แถมหัวหน้าบางคนก็ตามแบบจิกๆ อีกต่างหาก ทำแบบนี้หัวหน้าทำถูกหรือไม่?
ที่นี่เรามาดูหน้าที่หลักๆของหัวหน้าว่าเขาต้องทำอะไรบ้าง
บทบาทหัวหน้างาน ไม่ได้มีแค่การสั่งแล้วตามจิก

หลายคนรู้สึกว่าหัวหน้าไม่เห็นทำงานอะไรเลย ได้แต่สั่งงานแล้วก็ตามงาน แถมหัวหน้าบางคนก็ตามแบบจิกๆ อีกต่างหาก ทำแบบนี้หัวหน้าทำถูกหรือไม่? ที่นี่เรามาดูหน้าที่หลักๆของหัวหน้าว่าเขาต้องทำอะไรบ้าง

Catfish Effect บริหารพนักงานให้แกร่ง จากแรงฮึดเพื่ออยู่รอด Catfish Effect (เอฟเฟกต์ปลาดุก) คือผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการมีคู่แข่งที่มีแข็งแกร่งเข้ามา จนทำให้คู่แข่งที่อ่อนแอ มีการพัฒนาตนเองให้ดีขึ้น
แนวคิดนี้เกิดขึ้นจากอะไร? และนำมาใช้เพื่อกระตุ้นความกระตือรือร้นของพนักงานและเพิ่มประสิทธิภาพของพนักงาน ได้อย่างไร? มารู้กันจาก blog นี้
Catfish Effect บริหารพนักงานให้แกร่ง จากแรงฮึดเพื่ออยู่รอด

Catfish Effect (เอฟเฟกต์ปลาดุก) คือผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการมีคู่แข่งที่มีแข็งแกร่งเข้ามา จนทำให้คู่แข่งที่อ่อนแอ มีการพัฒนาตนเองให้ดีขึ้น แนวคิดนี้เกิดขึ้นจากอะไร? และนำมาใช้เพื่อกระตุ้นความกระตือรือร้นของพนักงานและเพิ่มประสิทธิภาพของพนักงาน ได้อย่างไร? มารู้กันจาก blog นี้