ผู้นำตามแนวคิด Leading With Purpose (ตอนที่ 1) : Achievement Driver New

วันที่: 16 ต.ค. 2566 11:07:51     แก้ไข: 16 ต.ค. 2566 14:57:57     เปิดอ่าน: 913     Blogs


จากแนวคิดเรื่อง Leading With Purpose ที่องค์กรควรจะมีผู้บริหารที่มีความสามารถในการนำพาองค์กรไปสู้เป้าประสงค์ที่ต้องการ ที่แบ่ง ผู้บริหารออกได้เป็น 4 ลักษณะ

โดยในบทความนี้ จะขอนำเสนอให้เข้าใจ การบริหารของผู้บริหาร แบบ Achievement Driver ให้เข้าใจอย่างละเอียดว่าเขามีการบริหารเช่นใดถึงสามารถนำพาองค์กรให้บรรลุ Purpose ด้าน Growth และ Productivity ได้

เป้าประสงค์ของผู้นำแบบ Achievement Driver

  • Growth คือองค์กรมีเป้าประสงค์ที่จะเติบโตได้ไม่ว่าสถานการณ์ในขณะนั้นๆ จะเป็นเช่นใด เช่นสภาพเศรษฐกิจดี หรือ ไม่ดี แต่องค์กรก็ยังต้องเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง
  • Productivity เมื่อมาประกอบกับจุดประสงค์ในการ Growth มันก็จะกลายเป็นเครื่องมือที่ผู้บริหารจะต้องสร้างผลผลิตให้ได้ดีที่สุดเพื่อนำการเติบโตมาสู่องค์กร

ดังนั้น ผู้บริหารประเภท Achievement Driver คือผู้ใช้เครื่องมือหรือการบริหารเพื่อให้เกิด Productivity ที่สูงจนนำมาซึ่งการเติบโตขององค์กร

วิธีการบริหารทีมงานของ Achievement Driver

วิธีการบริหารจะเริ่มต้นจากการนำกลยุทธ์องค์กรมากำหนดเป็นเป้าหมายของฝ่ายตนเอง แล้วแปลงเป้าหมายนั้นเป็นกลยุทธ์ของฝ่าย โดยที่เขาจะต้องแปลงด้วยการมองทิศทางในอนาคตของธุรกิจ ประกอบกับสภาพแวดล้อมหรือ สถานการณ์ปัจจุบัน ที่องค์กรเผชิญอยู่ โดยใช้ทั้งทักษะความคิดสร้างสรรค์ การมองไปข้างหน้า ความกล้าที่จะคิด ไม่ยืดติดกับการทำอะไรเดิมๆ ซึ่งจะทำให้เกิดกลยุทธ์ที่สดใหม่ และมีความกล้าหาญ แต่ทรงประสิทธิภาพ

หลังจากนั้นแล้วเขาก็จะใช้ทักษะในการสื่อสารเพื่อถ่ายทอดกลยุทธ์นี้ให้ทีมงานยอมรับและทำด้วยความเต็มใจ โดยเขาจะเป็นผู้ที่คอยสนับสนุนทีมงาน คอยกำหนดเป้าหมายแต่ละขั้นตอนที่ต้องทำให้สำเร็จ (MileStone) และในขณะเดียวกันก็จะคอยกำกับดูแลทีมงานให้ทำตามเป้าหมายแต่ละขั้นตอนให้ได้ พร้อมทั้งส่งเสริมทั้งความสามารถและขวัญกำลังใจกับทีมงานเพื่อให้ทีมงานทุกคนทำตามกลยุทธ์ที่เขากำหนดมาให้สำเร็จ
 

สรุป

Achievement Driver จะเป็นคนที่กล้าคิด กล้าทำ กล้าตัดสินใจ โดยมีจุดเด่นอยู่ที่การกำหนดกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพ และการกำกับดูทีมงานให้ทำตามกลยุทธ์นั้นให้สำเร็จ ซึ่งจะมีส่วนช่วยให้องค์กร เกิด Productivity และนำไปสู่การเติบโตได้ ไม่ว่าขณะนั้นๆ องค์กรกำลังเผชิญกับภาวะอะไรอยู่ก็ตาม
หากท่านใดสนใจรายละเอียดของการพัฒนาผู้นำ Leading with Purpose นี้ สามารถ Download เอกสาร หรือ สามารถขอคำปรึกษาเบื้องต้นได้ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ที่นี่ 
  
        เพิ่มเพื่อน    

บทความโดย

Kom Suwanpimon (คม สุวรรณพิมล)

CEO & Founder / Coach For Goal Group 
 
  • Top Management Executive in Finacial Companies
  • Executive Coach & Business Development Consultant
  • Newspaper Columnnist & Author
     
Interesting Areas:
Business Results Inprovement, Leadership Development, Executive & performance Coaching, People Attitude & Behavior
 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

5 กลยุทธ์ผู้นำที่ทำให้เกิด High Performance Environment การเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วในวันนี้ หัวหน้างานที่ยังคงต้องทำบทบาทในการปรับทีมงานให้พร้อมรับมือการเปลี่ยนแปลงเสมอ เพื่อให้เกิดบรรยากาศแบบ High Performance Environment หรือ ทีมงานมีไฟมีพลังสู้รบกับการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ซึ่ง 5 วิธีที่หัวหน้าสามารถเริ่มทำได้ทันที ได้แก่
5 กลยุทธ์ผู้นำที่ทำให้เกิด High Performance Environment

การเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วในวันนี้ หัวหน้างานที่ยังคงต้องทำบทบาทในการปรับทีมงานให้พร้อมรับมือการเปลี่ยนแปลงเสมอ เพื่อให้เกิดบรรยากาศแบบ High Performance Environment หรือ ทีมงานมีไฟมีพลังสู้รบกับการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ซึ่ง 5 วิธีที่หัวหน้าสามารถเริ่มทำได้ทันที ได้แก่

ทำไม? เมื่อผู้นำตั้งใจทำดีมากไป ผลที่ได้กลับกลายเป็นร้ายในทันที คุณมักได้ยินคำแนะนำมากมายเกี่ยวกับการเป็นผู้นำที่ดี เช่น ต้องรับฟังให้เยอะพูดให้น้อย ต้องเข้าอกเข้าใจ ต้องพัฒนาเรียนรู้ตลอดเวลา ต้องมีเหตุผล ต้องแสดงความรับผิดชอบและทำให้งานสำเร็จ สิ่งต่างๆเหล่านี้ ล้วนเป็นการกระทำที่ดีทั้งนั้น แต่รู้ไหมว่า จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าคุณทำสิ่งข้างต้นเรื่องใดเรื่องหนึ่งมากเกินไป
ทำไม? เมื่อผู้นำตั้งใจทำดีมากไป ผลที่ได้กลับกลายเป็นร้ายในทันที New

คุณมักได้ยินคำแนะนำมากมายเกี่ยวกับการเป็นผู้นำที่ดี เช่น ต้องรับฟังให้เยอะพูดให้น้อย ต้องเข้าอกเข้าใจ ต้องพัฒนาเรียนรู้ตลอดเวลา ต้องมีเหตุผล ต้องแสดงความรับผิดชอบและทำให้งานสำเร็จ สิ่งต่างๆเหล่านี้ ล้วนเป็นการกระทำที่ดีทั้งนั้น แต่รู้ไหมว่า จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าคุณทำสิ่งข้างต้นเรื่องใดเรื่องหนึ่งมากเกินไป

การสื่อสาร 3 มิติ ที่หัวหน้าต้องรู้ เพื่อให้งานได้ผลลัพธ์ ถ้าพูดว่าการทำงานหลักๆของผู้บริหาร หรือหัวหน้า คือการสื่อสาร ภาพในหัวของหลายคนก็จะมีภาพว่าหัวหน้าต้อง present ได้เก่ง โน้มน้าวหรือ พูดได้รู้เรื่อง ซึ่งก็นับว่า จริง แต่แค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะผู้บริหารมีหน้าที่ต้องบริหารคนให้ทำงานให้บรรลุเป้าหมายให้ได้ ดังนั้นการสื่อสารของหัวหน้าจึงมีหลากหลายมิติ โดยถ้าแยกแบบคร่าวๆ ก็จะมีอยู่ 3 มิติ ดังนี้
การสื่อสาร 3 มิติ ที่หัวหน้าต้องรู้ เพื่อให้งานได้ผลลัพธ์ New

ถ้าพูดว่าการทำงานหลักๆของผู้บริหาร หรือหัวหน้า คือการสื่อสาร ภาพในหัวของหลายคนก็จะมีภาพว่าหัวหน้าต้อง present ได้เก่ง โน้มน้าวหรือ พูดได้รู้เรื่อง ซึ่งก็นับว่า จริง แต่แค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น เพราะผู้บริหารมีหน้าที่ต้องบริหารคนให้ทำงานให้บรรลุเป้าหมายให้ได้ ดังนั้นการสื่อสารของหัวหน้าจึงมีหลากหลายมิติ โดยถ้าแยกแบบคร่าวๆ ก็จะมีอยู่ 3 มิติ ดังนี้

2 หัวใจสำคัญ การสื่อสาร ที่เป็นงานสำคัญของหัวหน้า จากที่เคยพูดถึงว่าทักษะสำคัญของหัวหน้าคือการสื่อสาร ซึ่งมีหลากหลายวัตถุประสงค์ ในโพสนี้ ขออธิบายการสื่อสารที่เป็นจุดเริ่มต้นของการทำงาน คือ”การสั่งงาน” ซึ่งดูแล้วเหมือนกับเรื่องง่ายๆ ที่ใครๆก็น่าจะสั่งงานได้ แต่หัวใจสำคัญคือ
2 หัวใจสำคัญ การสื่อสาร ที่เป็นงานสำคัญของหัวหน้า New

จากที่เคยพูดถึงว่าทักษะสำคัญของหัวหน้าคือการสื่อสาร ซึ่งมีหลากหลายวัตถุประสงค์ ในโพสนี้ ขออธิบายการสื่อสารที่เป็นจุดเริ่มต้นของการทำงาน คือ”การสั่งงาน” ซึ่งดูแล้วเหมือนกับเรื่องง่ายๆ ที่ใครๆก็น่าจะสั่งงานได้ แต่หัวใจสำคัญคือ

บทบาทหัวหน้างาน ไม่ได้มีแค่การสั่งแล้วตามจิก หลายคนรู้สึกว่าหัวหน้าไม่เห็นทำงานอะไรเลย ได้แต่สั่งงานแล้วก็ตามงาน แถมหัวหน้าบางคนก็ตามแบบจิกๆ อีกต่างหาก ทำแบบนี้หัวหน้าทำถูกหรือไม่?
ที่นี่เรามาดูหน้าที่หลักๆของหัวหน้าว่าเขาต้องทำอะไรบ้าง
บทบาทหัวหน้างาน ไม่ได้มีแค่การสั่งแล้วตามจิก

หลายคนรู้สึกว่าหัวหน้าไม่เห็นทำงานอะไรเลย ได้แต่สั่งงานแล้วก็ตามงาน แถมหัวหน้าบางคนก็ตามแบบจิกๆ อีกต่างหาก ทำแบบนี้หัวหน้าทำถูกหรือไม่? ที่นี่เรามาดูหน้าที่หลักๆของหัวหน้าว่าเขาต้องทำอะไรบ้าง

Catfish Effect บริหารพนักงานให้แกร่ง จากแรงฮึดเพื่ออยู่รอด Catfish Effect (เอฟเฟกต์ปลาดุก) คือผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการมีคู่แข่งที่มีแข็งแกร่งเข้ามา จนทำให้คู่แข่งที่อ่อนแอ มีการพัฒนาตนเองให้ดีขึ้น
แนวคิดนี้เกิดขึ้นจากอะไร? และนำมาใช้เพื่อกระตุ้นความกระตือรือร้นของพนักงานและเพิ่มประสิทธิภาพของพนักงาน ได้อย่างไร? มารู้กันจาก blog นี้
Catfish Effect บริหารพนักงานให้แกร่ง จากแรงฮึดเพื่ออยู่รอด

Catfish Effect (เอฟเฟกต์ปลาดุก) คือผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการมีคู่แข่งที่มีแข็งแกร่งเข้ามา จนทำให้คู่แข่งที่อ่อนแอ มีการพัฒนาตนเองให้ดีขึ้น แนวคิดนี้เกิดขึ้นจากอะไร? และนำมาใช้เพื่อกระตุ้นความกระตือรือร้นของพนักงานและเพิ่มประสิทธิภาพของพนักงาน ได้อย่างไร? มารู้กันจาก blog นี้